top of page
Recent Posts
Featured Posts

เทพธิดาจักรกล (Mechanical Angel)

เทพธิดาจักรกล - [ Mechanical Angel ] Story : เอมวลี พวงเพ็ชร์ (Cat's box) Illust : St.Cygnus

ครั้ง หนึ่งนานมาแล้ว ช่างทำหุ่นได้ขอพรกับนางฟ้า และแล้วตุ๊กตาเชิดตนหนึ่งก็มีชีวิตขึ้นมา...

ในเขตการปกครองที่สอง ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของทวีปไฮเซนเบิร์ก

ภูมิประเทศอันสงบซึ่งเป็นทุ่งหญ้ากว้างได้ถูกทำลายความเงียบลงด้วยเสียงฝีเท้าจำนวนมากของหน่วยคอมมานโดประจำรัฐบาลแองกริฟฟ์ ทหารในเครื่องแบบอันน่าสะพรึงย่ำเท้าลงไปบนหญ้ารกชัฏอย่างเงียบเชียบขณะส่งสัญญาณให้เตรียมบุกเข้าพื้นที่สถานที่เป้าหมายก็คือคฤหาสน์รกร้างหลังใหญ่ที่ตั้งอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางชนบทอันห่างไกลจากเมือง และที่นี่ คือที่ซึ่งพวกเขาจับสัญญาณการลักลอบเจาะข้อมูลลับของรัฐบาลได้ สามเดือนก่อน ผู้บัญชาการนาตาลี-- -สตรีหมายเลขหนึ่งแห่งแองกริฟฟ์- --

ได้รับรายงานจากหน่วยจัดการคลังข้อมูลว่ามีการลักลอบเข้าถึงข้อมูลจำนวนหนึ่งของรัฐบาล

จากภายนอก และดูเหมือนว่าแฮกเกอร์รายนี้จะรู้ถึง “ระดับ” ของข้อมูลดีเสียด้วยเพราะข้อมูลที่ถูกแฮกเกอร์นิรนามเข้าถึงนั้น -- ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์อัลฟ่า,งานทดลองของดร.แฟรงค์เกน หรือแม้แต่โปรเจควิจัยมนุษย์โคลน ‘ไอรา’-- ล้วนเป็นความลับต้องปกปิดระดับ SS ทั้งสิ้น ราวกับว่าเขาจงใจเลือกจะเจาะเข้าไปในข้อมูลที่ลับสุดยอดเท่านั้นและภายหลังการเข้าถึงข้อมูล แฮกเกอร์ผู้นี้ได้ทำลายร่องรอยของตนด้วยการทิ้งเส้นทางลวงเอาไว้เป็นเส้นทางเครือข่ายจำนวนมหาศาลคล้ายกับรังใยแมงมุม ทำให้ยากต่อการเข้าถึงตัวยิ่งนัก

แม้กระทั่งระบบคอมพิวเตอร์ที่เชี่ยวชาญที่สุดก็ต้องใช้เวลาถึงสามเดือนในการติดตาม เมื่อเจาะถึงไซต์ลวงนับร้อยที่ถูกทิ้งไว้ ก็จะปรากฏภาพหุ่นเชิดไม้ขึ้นมาทุกครั้ง แฮกเกอร์นิรนามจึงถูกบรรดาหน่วยงานไอทีตั้งชื่อโค้ดเนมว่า ‘หุ่นกระบอก’ โดยไม่รู้ที่มาที่ไปหรือวัตถุประสงค์ของหุ่นกระบอกผู้นี้แม้แต่น้อย

กระนั้นแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตามภารกิจของนาตาเลียคือการกำจัดคนที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของแองกริฟฟ์ลงเสียหน่วยคอมมานโดภายใต้การบัญชาของเธอจึงลงพื้นที่เพื่อทำการล่าตัวแฮกเกอร์ปริศนาและ ทำลายข้อมูลทิ้งให้สิ้นซาก

ภารกิจตามจับกุม ‘เจ้าหุ่นกระบอก’ จึงเริ่มขึ้น

“ เริ่มภารกิจได้ ” เสียงเยียบเย็นของสตรียืนยันอนุมัติการจู่โจมหน่วยคอมมานโดจึงเริ่มบุกเข้าไปในคฤหาสน์หลังนั้นทันทีเด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือ เธอเผลอหลับไปด้วยความง่วงงุนโดยไม่รู้ตัว

บิดาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไม่ไกลมองมายังเธอด้วยความอ่อนโยนมือข้างหนึ่งขยี้หัวอย่างนึกเอ็นดู

“ มีร่า ..ถ้าง่วงก็หลับต่อเถอะนะ ” เขาเอ่ยปาก “ ลูกคงจะเหนื่อยมากเกินไป พักหน่อยก็คงดี ”

“ หนูยังไม่ง่วงหรอกค่ะ แค่หนังสือเล่มนี้อ่านยากนิดหน่อยเท่านั้นเอง ”

เธอพึมพำอย่างอายๆ ขณะซ่อนใบหน้าไว้ด้านหลังหนังสือ เด็กสาวยังไม่อยากหลับไปเพื่อให้ได้ใช้เวลาอยู่กับพ่อนานขึ้นอีกนิด ไม่บ่อยนักที่ผู้เป็นพ่อจะสละเวลางานมาเพื่อเธอ ส่วนใหญ่แล้วเขามักจะหมกมุ่นอยู่กับการทดลองค้นคว้าที่ห้องใต้ดิน ด้วยภาระงานการเป็นนักวิจัยของรัฐบาลทำให้ศาสตราจารย์ผู้นี้ยุ่งอยู่ตลอดเวลา คิ้วทั้งสองข้างมักจะขมวดมุ่นเพราะงานที่หักโหมข้ามวัน แต่ครั้งนี้คิ้วคู่นั้นดูเหมือนจะเคร่งเครียดด้วยสาเหตุที่ต่างออกไป

“ ตอนนี้มีคนเข้ามาเยี่ยมบ้านเรานิดหน่อย .. แต่ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว ”

เขาเปลี่ยนมายิ้มให้บุตรสาวในแบบที่เธอไม่ค่อยได้เห็นนัก

“ ถ้าหนังสือปรัชญาอ่านยากแล้วล่ะก็ เปลี่ยนมาอ่านหนังสือนิทานสักเล่มแทนสิ...ดีไหมลูก ? ”

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ช่างทำหุ่นได้ขอพรกับนางฟ้า เพื่อให้ตุ๊กตาเชิดตนหนึ่งมีชีวิตขึ้นมา...

บรรยากาศภายในคฤหาสน์แห่งนี้เงียบสงบและวังเวงเสียจนน่าขนลุก ผนังและเพดานเปื้อนฝุ่นเขรอะ ราวกับจะบ่งบอกว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่มานานแล้ว บนพื้นต่างก็เรียงรายไปด้วยเศษเหล็กขึ้นสนิมที่เป็นซากชิ้นส่วนของหุ่นยนต์ ไม่บ่อยนักที่ทหารเดนตายของหน่วยคอมมานโดจะรู้สึกประหลาดเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเคยรับมือกับเครื่องจักรสังหารและกลุ่มกบฎมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่ครานี้ความรู้สึกกลับต่างออกไป

คล้ายกำลังเดินอยู่ในสุสานของเหล่าหุ่นที่ถูกทอดทิ้งโดยมีคำถามที่น่าสงสัยผุดขึ้นมากมาย

คฤหาสน์หลังงามของนักวิทยาศาสตร์ตกอับแห่งแองกริฟฟ์ผู้ซึ่งถูกล้มเลิกโปรเจคต์ลับไป--

เหตุใดจึงมีสภาพเช่นนี้ และเกี่ยวข้องอะไรกับแฮคเกอร์นิรนามคนนั้น หากพวกเขาเป็นสปายให้กลุ่มกบฎ การเฝ้าระวังจะยิ่งต้องเพิ่มมากขึ้น ทันใดนั้นเอง เพดานห้องโถงก็เปิดออกฝุ่นผงร่วงกราวพร้อมหุ่นจำนวนมากที่ร่วงหล่นลงมาจากความมืดเบื้องบน

หน่วยคอมมานโดกระจายกำลังออกไปเตรียมรับมือทันที แต่หุ่นเหล่านั้นไม่ได้ลงมือใดๆ พวกมันเพียงแค่ห้อยโตงเตงด้วยสายไฟระโยงระยางคล้ายหุ่นเเชิดเพียงเท่านั้น “ อะไรน่ะ...” ทหารคนหนึ่งสาดไฟส่องไปหาหุ่นที่ห้อยลงมาอย่างพิศวงในใจ ... หุ่นเหล่านี้เป็นหุ่นรุ่นเก่าที่รับคำสั่งผ่านทางสายเชื่อมต่อ

ไม่ใช่กลุ่มปัญญาประดิษฐ์แต่อย่างใด พริบตาถัดมา แสงสีแดงก่ำจากดวงตาเซนเซอร์นับสิบก็สว่างจ้า หุ่นเชิดเหล่านั้นเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มันดึงทึ้งสายไฟที่ห้อยพวกตนออก แล้วเริ่มตั้งท่าการเคลื่อนไหวด้วยสี่ขาราวกับแมงมุม

“ ทำการกำจัดผู้บุกรุก ” สิ่งนั้นร้องเตือนด้วยเสียงสังเคราะห์ดังกึกก้อง “ ทำการกำจัดผู้บุกรุก!!!! ”

กระสุนจำนวนมหาศาลถูกสาดซัดเข้าใส่หน่วยคอมมานโดยไม่ให้ตั้งตัวทหารจำนวนหนึ่งล้มลงกับพื้นที่เจิ่งไปด้วยเลือดเพดานเปรอะคราบและรอยกระสุนจนพรุน กลุ่มที่เหลือรอดอาศัยความว่องไวหลบเข้ามุมอับซึ่งเป็นที่กำบัง ทำให้รอดตายอย่างหวุดหวิด

“ บ้าจริง หรือว่ามันจะรู้ตัวแล้ว ” หัวหน้าหน่วยคอมมานโดสบถขึ้น เขาเอี้ยวตัวไปยิงรัวกลับ แต่กระสุนปืนกลที่บรรจุอยู่ไม่สามารถเจาะเข้าภายในเกราะของศัตรูได้ เครื่องจักรสังหารทั้งหลายอาศัยจังหวะนี้ไต่ไปตามพื้นที่ราวกับทุกแห่งคือรังของมัน ขาแรงดันไอน้ำขยับไปมาอย่างคล่องแคล่วจนน่าขนลุก พร้อมกันนั้นปืนกลที่ติดตั้งไว้สองข้างก็กราดยิงรอบทิศ

โธ่โว้ย ! หัวหน้าหน่วยคิดในใจ.. เบื้องบนตั้งใจจะบุกจับกุมตัวแฮกเกอร์ปริศนาเท่านั้น จึงได้ส่งหน่วยของเขาที่ถนัดรับมือการต่อสู้แบบประชิดตัวมาทำงานนี้ ไม่ได้คาดว่าจะต้องรับมืออาวุธจักรกลแม้แต่น้อย ครั้นเห็นว่าพวกตนกำลังเสียเปรียบเต็มกำลัง ผู้เป็นหัวหน้าจึงตัดสินใจส่งสัญญาณให้คนที่อยู่โดยรอบถอยออก เพื่อใช้ระเบิดมือในการตอบโต้ ลูกทีมคนอื่นเมื่อเห็นหัวหน้าตนส่งสัญญาณมาก็กระจายตัวออกห่างจากบริเวณนั้นอย่างรู้หน้าที่ ระเบิดมือถูกเขวี้ยงไปที่เป้าหมาย ในพริบตาถัดมา แสงสว่างวาบขึ้นพร้อมเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงส่งของระเบิดนั้นทำให้ผู้โยนกระเด็นออกมาจากตำแหน่งซ่อนตัวเล็กน้อย เขากระแทกพื้นแต่ไม่รุนแรงนัก

“ อุบ แค่ก ! สำเร็จรึเปล่า !?” ฝุ่นควันจากแรงระเบิดในห้องโถงฟุ้งกระจายไปทั่ว และเมื่อฝุ่นจางลง

ทหารทั้งหลายของแองกริฟฟ์ก็เห็นซากของเครื่องยนต์ศัตรูกองอยู่กับพื้น เศษสายไฟและเหล็กกล้าทะลุออกมาดูคล้ายขาของแมลงที่ถูกบี้

“ สำเร็จ !! ” หน่วยทหารโห่ร้องดีใจเมื่อเห็นว่าระเบิดมือได้ผล…ทีนี้ก็ไม่ต้องถูกผู้การนาตาลีตำหนิเอาแล้ว !

ทว่าในตอนนั้นเอง กำแพงห้องโถงขนาดใหญ่ก็ร่วงกราวลงมาเผยให้เห็นหุ่นยนต์ขนาดมหึมาที่สูงเท่ากับตัวบ้านซุกซ่อนอยู่ด้านหลังกำแพง ดวงตายักษ์สีแดงของมันเรืองแสงจ้า บ่งบอกความพร้อมในการรบ

มันคือหุ่นรุ่นบุกเบิกของหุ่นรบรัฐบาลที่มีขนาดใหญ่โตและพลังทำลายมหาศาล

“ W1RPAPA....พร้อมทำการกำจัดผู้บุกรุก..” ผู้การหน่วยส่งเสียงกระซิบผ่านเครื่องมือสื่อสารไปยังศูนย์บัญชาการ “ ขอกำลังเสริมจากหน่วยติดอาวุธ (Armored Squad) ด่วน …เราเจอปัญหาใหญ่เบ้อเริ่มเข้าให้แล้ว ”

เด็กสาวยังคงเพลิดเพลินกับหนังสืออยู่ครู่ใหญ่ จนกระทั่งสังเกตได้ว่าบิดาของตนกำลังเคร่งเครียดอยู่ “ มีอะไรรึเปล่าคะพ่อ ” เธอวางหนังสือลงแล้วถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เขาหันกลับมาหา

แววตาสีแดงคู่นั้นสะท้อนภาพบุตรีผู้งดงาม

“ ไม่มีอะไรหรอก มีร่าน้อยของพ่อ... พ่อแค่คิดว่าบางทีอาจจะต้องออกไปดูข้างนอกเสียหน่อย

มันเริ่มอึกทึกมากขึ้นแล้ว ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มที่ปรารถนาจะปลอบใจเธอ

“ งั้นหรือคะ .. แล้วหนูพอจะช่วยอะไรได้รึเปล่า ” มีร่าประสานมือไว้เบื้องหน้า

เธอถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจและเป็นกังวล ที่ผ่านมาเธอเคยช่วยพ่อทำงานมาหลายครั้ง และมักจะลงเอยด้วยความล้มเหลว ผู้เป็นพ่อแผดเสียงใส่เธออย่างรุนแรงทุกครั้งที่งานไม่ประสบผลสำเร็จดังใจเขา

เธอจึงไม่กล้าที่จะออกปากอาสาด้วยตนเอง แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว.. เป็นพ่อคนใหม่ที่ใจดีกว่าเดิม อ่อนโยนมากกว่าเดิม หลังจาก “สิ่งนั้น” ประสบความสำเร็จ

“ ไม่ต้องหรอกลูกรัก ..ถ้าพ่อจะขออะไรบางอย่างกับลูก ก็ขอเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น ” เขาเอ่ยปากขณะที่ลูบหัวเธอ สัมผัสนั้นว่างเปล่าปราศจากอุณหภูมิของมนุษย์ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย

“ จำที่พ่อพูดได้ใช่ไหม ? ว่าลูกต้องซ่อนตัวให้ดี ให้เหมือนแมงมุมที่แอบซ่อนในรังเขาวงกตของมัน.. ลูกทำได้ใช่ไหมถ้าเกิดว่ามีใครบางคนแอบเข้ามาตอนที่พ่อไม่อยู่ ก็ต้องซ่อนตัวให้ดี ”

มีร่าพยักหน้ารับคำขณะมองร่างของบิดาเดินลับออกไปจากห้องสีขาวโล่งประตูที่สร้างจากภาพเสมือนเปิดออกและปิดลงเธอรู้ดีว่ามันอันตรายเพียงใด จึงก้มหน้าลงสวดภาวนาให้กับพ่อซึ่งอาจไม่หวนกลับมาอีกครั้ง

“ ขอให้พระเจ้าคุ้มครองนะคะคุณพ่อ…” เหลือเธอเพียงลำพังในโลกของมิติเสมือนสีขาวที่แสนเงียบงัน

ได้แต่รอคอยสิ่งซึ่งเรียกว่าปาฎิหาริย์ให้บังเกิด … ในนาทีที่เทพธิดาแห่งสงครามอย่าง ‘เอวา’ ก้าวเข้าสู่สมรภูมิรบ ทุกคนก็รู้ได้ทันใดว่าโชคอยู่ข้างฝั่งของพวกเขาแล้ว

“ ไม่คิดเลยว่าจะได้รับเกียรติมาร่วมงานกับคุณอย่างนี้ ...” ออกัสติน หรือผู้เป็นหัวหน้าหน่วยคอมมานโดเอ่ยขึ้น

“ ไม่เป็นไรน่า ยังไงเสียคำสั่งของผู้บัญชาการนาตาลีย่อมบิดพลิ้วไม่ได้อยู่แล้ว ” หญิงสาวผมสีลูกพีชผู้มีใบหน้าร่าเริงนามว่า “เอวา” กล่าวรับคำเยินยอนั่นด้วยท่าทีสบายๆตามแบบฉบับของเธอขณะที่มองหุ่นคู่ใจของตนใช้อาวุธเข้าฟาดฟันใส่หุ่นร่างยักษ์ เธอคือหัวหน้าของกองทัพหุ่นจักรกลของรัฐบาลซึ่งได้รับคำสั่งให้มาช่วยสนับสนุนภารกิจคราวนี้อย่างเร่งด่วน

เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน หลังการปรากฏตัวของหุ่นยักษ์ปริศนาที่ซ่อนอยู่หลังกำแพงหน่วยคอมมานโดพยายามหาวิธีการในการถ่วงเวลาเจ้าหุ่นยักษ์นั่นระหว่างที่รอกำลังสนับสนุนจากส่วนกลางมาช่วย อาวุธหนักอย่างระเบิดมือหรือแม้แต่ปืนกลไฟก็ไม่อาจทะลวงเข้าไปในเกราะของมันได้ที่ร้ายยิ่งกว่าคือจักรกลขนาดยักษ์ได้สังหารเพื่อนร่วมทีมของพวกเขาลงไปกว่าครึ่งโดยการโจมตีไม่กี่ครั้ง พละกำลังมหาศาลของมันชวนให้นึกถึงยักษ์ที่เคยได้ยินจากตำนานหรือนิทานของทวีปอื่นเท่านั้น พวกเขาจวนเจียนจะถอดใจเสียแล้ว จนกระทั่งเรือบินขนาดใหญ่ของทางการ ‘Dragon Slayer’ ได้ส่งกำลังสมทบลงมาจากฟากฟ้า

และเมื่อสาวน้อยปรากฏตัวขึ้นพร้อมหุ่นกลรุ่นใหม่ของรัฐบาล ประหนึ่งว่าเทพธิดาแห่งชัยชนะได้ย้ายมายังฝั่งของพวกเขาทันใด ภารกิจครั้งนี้ไม่มีอะไรต้องวิตกอีกแล้ว

เอวาประเมินสถานการณ์เบื้องหน้าอย่างใจเย็นด้วยความห่างชั้นของกำลังและรุ่นของหุ่น เธอมั่นใจว่าหุ่นรบที่เธอประดิษฐ์ขึ้นมาเองย่อมสามารถคว้าชัยมาได้ไม่ยากเย็น ทว่าการต่อสู้ของหุ่นยนต์ทั้งสองดำเนินไปอย่างสูสีจนยากจะตัดสินได้ง่าย

ประหลาดมาก... ด้วยศักยภาพของหุ่นยักษ์รุ่น W1RPAPA หรือชื่อเล่นว่า “Warpapa” ที่เป็นหุ่นกลรุ่นเก่านั้น ไม่สามารถเทียบเคียงกับหุ่นนักรบของเธอได้แม้แต่น้อย แต่มันยังคงต่อสู้อย่างบ้าคลั่งราวกับว่ามันถูกโปรแกรมมาให้สู้ยิบตา เอวาเคยพบหุ่นที่คล้ายกันนี้มาก่อน มันเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ก่อกบฏเพื่อยึดคืนเสรีภาพของตนเองจากรัฐบาล พวกมันอ้างว่าตนเองมี “จิตใจ” เหมือนมนุษย์ แต่ว่าปัญญาประดิษฐ์เหล่านั้นเป็นผลงานรุ่นใหม่ที่เกิดจากวิทยาการล้ำหน้า ต่างกับหุ่นตัวนี้อย่างสิ้นเชิง

เธอไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่รู้สึกราวกับว่าหุ่นยักษ์ Warpapa มีจิตใจทั้งที่ระบบของมันไม่สามารถเป็นไปได้ และมันกำลังสู้เพื่อปกปักษ์รักษาอะไรบางอย่างในคฤหาสน์หลังนี้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี

ขวานขนาดใหญ่ของหุ่นรบของเธอฟาดลงที่แขนขวาของเจ้ายักษ์และตวัดลงไปถึงขาฝั่งเดียวกันมันทำลายซีกหนึ่งของศัตรูได้อย่างราบคาบหุ่นยักษ์ส่งเสียงร้องกึกก้องราวกับสัตว์ป่ามันล้มลงกับพื้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวก่อนจะแน่นิ่งสนิทเอวาลอบถอนใจออกมา ชั่วขณะหนึ่งเธอคิดว่าหุ่นของเธอจะแพ้เสียอีกแต่นั่นคงเป็นไปไม่ได้หรอก

“ เอาล่ะ…รายงานสถานการณ์มาซิ ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและทำไมถึงมีหุ่นจักรกลสงครามมาโผล่ที่นี่ได้ ”

เธอถามกับผู้การหน่วยคอมมานโดที่เป็นคนส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังส่วนกลาง ออกัสตินตอบด้วยข้อมูลทั้งหมดที่ตนมี

“ เมื่อสามเดือนก่อนเราค้นพบการลักลอบเจาะข้อมูลของรัฐบาลจากภายนอก หลังจากตามรอยได้ระยะหนึ่ง จึงพบว่าสัญญาณส่งออกมาจากที่นี่ครับ ” เขากล่าว “ตามข้อมูลที่ได้รับดูเหมือนว่านี่จะเป็นคฤหาสน์ของ ดร.เกมันน์ อิโอเลีย ซึ่งเคยทำงานเป็นนักวิจัยให้กับรัฐบาลเมื่อสามปีก่อน เมื่อโครงการของเขาถูกยุบ

เกมันน์กับครอบครัวก็หายหน้าไป หลังจากนั้นไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งตอนนี้ และไม่ทราบความเชื่อมโยงระหว่างเขากับแฮกเกอร์ลึกลับแม้แต่น้อย ”

แล้วเขาก็ชี้ไปทางซากหุ่นที่กองบนพื้นดิน “ เจ้าหุ่นนี่เป็นหุ่นกลสงครามรุ่นเก่า น่าจะใช้งานเป็นหุ่นเฝ้าบ้านมานานแล้วล่ะมั้งครับ ”

เกมันน์รึ ….เอวาเลิกคิ้วขึ้น เธอเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน เมื่อหลายปีก่อนนั้น…

“ ฉันรู้จักเขา… เขาเคยมีชื่อกระฉ่อนในวงการนักประดิษฐ์ที่ทำงานให้แองกริฟฟ์ ” เธอกล่าวพร้อมยักไหล่ “ เป็นชื่อเสียงในทางแนวคิดพิลึกๆน่ะ ”

“ แบบไหนงั้นหรือครับ ? ”

“ สามปีก่อนผู้ชายคนนั้นเคยเสนอโครงการทดลองให้กับทางรัฐบาล ในชื่อโครงการว่า ‘Deus Ex Machina’(พระเจ้าในเครื่องจักร) ” เอวาเค้นความทรงจำออกมา “ ดูเหมือนเขาจะเชื่อว่าหากสามารถทำให้เครื่องจักรมีปัญญาแบบมนุษย์ได้ ก็น่าจะสามารถทำให้มนุษย์มีศักยภาพเหมือนเครื่องจักรได้เช่นกัน แต่ไม่ได้เหมือนพวกไซบอร์กหรอกนะ มันเป็นอะไรที่ลึกซึ้งกว่าและเป็นไปได้ยากกว่า... เขาคิดว่าจะสามารถบรรจุความนึกคิดของมนุษย์ลงในซอฟแวร์และสร้างเป็นเครือข่ายได้ พูดง่ายๆคือเปลี่ยนให้มนุษย์คนนึงกลายเป็นข้อมูลในเครือข่าย และทำงานควบคุมข้อมูลหรือสั่งการระบบอิเล็คทรอนิกส์ต่างๆผ่านทางเครือข่ายนั่นโดยตรง เขาเคยเปรียบเทียบว่าเหมือนกับการเล่นตุ๊กตา ถ้ามีคนเชิดแล้วล่ะก็ ก็สามารถทำให้หุ่นยนต์พวกนั้นเคลื่อนไหวได้ดังใจโดยไม่ต้องใส่ปัญญาประดิษฐ์ให้มัน

ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมล่ะ แต่ในทางปฎิบัติแล้วมันเป็นไปได้ยากแถมยังสิ้นเปลืองงบประมาณอีกผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวนมากไม่สามารถทนต่อการทดลองได้และตายไปไม่น้อยเชียวโครงการนั้นเลยถูกยกเลิกไป ดูเหมือนเขาจะเจอทางตันไปพักใหญ่ จนกระทั่ง...”

ยังไม่ทันที่เอวาจะเล่าจบ เสียงโครมครามก็ดังขึ้น หุ่นรบของเธอถูกอะไรบางอย่างฟาดเข้าที่ด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว มันคือเศษร่างกายซีกขวาของเจ้าหุ่นยักษ์ที่พ่ายแพ้ไปแล้วนั่นเอง “ ไม่จริงน่า ..มันยังขยับได้อยู่อีกเหรอ ” เอวาร้องเบาๆในลำคอด้วยความตกใจ เมื่อเห็นหุ่นที่น่าจะพังไปแล้วยังคงเคลื่อนไหวได้ มันคืบคลานด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มีแล้วกระชากเอาขาของหุ่นรบศัตรูไว้แน่น

“ .....ไป......ไม่ให้.....ผ่าน......ไป......” เสียงสังเคราะห์กระท่อนกระแท่นดังออกจากตัวหุ่น Warpapa มันไม่ยอมปล่อยขาของอีกฝ่ายแม้ว่าจะถูกขวานยักษ์ฟาดฟันลงมานับครั้งไม่ถ้วน

ตึง....... ตึง .........ตึง ......ตึง !!!!!!!!!!!!!!

จนกระทั่งการโจมตีครั้งสุดท้าย เมื่อขวานทุบลงมาบนส่วนหัวของเครื่องจักรเต็มแรงนั่นเอง ข้อมือโลหะจึงคลายออกช้าๆ เสียงครืดคราดแตกซ่าของผู้แพ้นั้นพึมพำอะไรบางอย่าง

มีร่า........

ถ้อยคำเฮือกสุดท้ายของมันแผ่วเบา ราวกับกำลังเรียกชื่อของบุคคลอันเป็นที่รักอย่างอ่อนโยน คุณพ่อคะ…

หยาดน้ำร่วงหล่นจากแก้มของเด็กสาวอย่างเงียบงัน เป็นน้ำตาแห่งความอาลัยที่มีต่อบิดาผู้ซึ่งล่วงลับไปแล้วของเธอ

อา … ใช่แล้ว

เธอมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายนอกผ่านทางกล้องวงจรปิดและกล้องอินฟราเรดจำนวนนับร้อยที่เชื่อมต่อกับดวงตาของเธอวาระสุดท้ายของหุ่นตนนั้นที่ทำเพื่อเธอช่างโหดร้ายยิ่งนัก เด็กสาวซบหน้าลงกับฝ่ามือแล้วร่ำไห้ เธอไม่ได้ร้องไห้ให้กับ “พ่อ” ที่แท้จริงของเธอ

พ่อผู้ซึ่งนำตัวเธอไปทดลองเพื่อความก้าวหน้าของโครงการวิปลาสของเขา

พ่อผู้ซึ่งจับเธอใส่ลงในเครื่องจักรที่เปล่งแสงสีเขียวสยดสยอง

พ่อผู้ซึ่งไม่เคยยิ้มหรือหัวเราะให้เธอเลย เธอไม่ได้ร้องไห้ให้กับพ่อคนนั้น เขาตายไปนานแล้ว ตายไปหลังจากที่การทดลองครั้งสุดท้ายของเขาสำเร็จผล เธอยังจำแววตาอันบ้าคลั่งที่สะท้อนออกมาในวาระสุดท้ายนั้นได้ เขาที่พยายามบังคับให้เธอเจาะเข้าข้อมูลของทางการ เขาที่พยายามบังคับให้เธอควบคุมหุ่นกลมากมายเพื่อเตรียมพร้อมรบ เขาที่ทะเยอทะยานอยากใช้เธอเป็นอาวุธเพื่อขึ้นไปสู่บัลลังก์สูงสุดแห่งแองกริฟฟ์-- - หรืออาจจะเป็นไฮเซนเบิร์ก ก่อนที่เขาจะถูกลำแสงสีเขียวปริศนากลืนกินมอดไหม้จนหมดสิ้น

หลังจากเขาตายไป เธอได้แหวกว่ายลงในทะเลแห่งข้อมูลของเหล่าหุ่นจักรกล และทิ้งตัวจมดิ่งอยู่ในนั้นเพียงลำพัง จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกของอะไรบางอย่าง...

เสียงของผู้ที่ถูกทิ้งไว้ในที่รกร้างเช่นเดียวกับเธอ ยักษ์จักรกลแห่งขุนเขาที่อยู่เพื่อเฝ้าคฤหาสน์แห่งนี้และบรรดาหุ่นทั้งหลายที่ถูกทอดทิ้งไปนานปี เธอได้มอบชีวิตคืนให้พวกมัน เข้าแทรกแซงระบบข้อมูลและประกอบขึ้น ก่อกำเนิดเป็นอาณาจักรตุ๊กตาแห่งนี้ด้วยเหตุนั้นเธอจึงไม่ได้หลั่งน้ำตาให้เขาแต่ร้องไห้ให้กับพ่อซึ่งเธอสร้างขึ้นใหม่ในร่างของหุ่นกลเก่าขึ้นสนิมตัวหนึ่ง

ไม่มีสัมผัสอันอบอุ่นของหยดน้ำที่แก้ม ไม่มีบิดาที่รักและห่วงใยเธออยู่จริง มีเพียงภาพมายาอันกลวงเปล่าที่เธอสร้างขึ้นโดยใช้หุ่นตนนั้นแทนพ่อก็เท่านั้น แต่ความโศกเศร้านี่ก็เป็นของจริงไม่ใช่หรือ …

หน่วยคอมมานโดได้เคลื่อนตัวกระจายกำลังกันไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสิ้นแม้ในเวลานี้จะเหลือเพียงไม่ถึงสิบคน แต่ด้วยความร่วมมือของเอวาและหุ่นกล ทำให้พวกเขาสามารถกำจัดหุ่นเฝ้ายามกระจิ๊บกระจ้อยตัวอื่นๆไปได้อย่างไม่ยากเย็น ดูเหมือนว่าเจ้าหุ่นยักษ์ที่ถูกโค่นไปจะเป็นบอสใหญ่ที่สุดของที่แห่งนี้แล้ว

ร่องรอยของการเจาะข้อมูลซึ่งตรวจจับได้โดยเครื่องมือของพวกเขานั้น ระบุว่ามีใครบางคนยังคงอยู่ที่ห้องใต้ดินของอาคารแห่งนี้ เป็นคลื่นสัญญาณที่แผ่วเบา ทว่าเมื่อเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว มันก็เริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ นั่นคงเป็นแฮกเกอร์ ‘หุ่นกระบอก’ ตัวการที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้เป็นแน่..

ทางลับที่นำไปสู่ห้องใต้ดินเป็นบันไดเวียนขนาดแคบ มันเชื่อมต่อกับท่อน้ำและท่ออากาศยาวไปจนถึงเบื้องล่าง ระหว่างทางนั้น มีเศษซากชิ้นส่วนของเครื่องจักรตกหล่นอยู่มากมาย มันไหม้เกรียมไม่มีชิ้นดีและเปล่งแสงสีเขียวประหลาดที่ดูอันตรายออกมา

“ อาจเป็นธาตุกัมมันตรังสีก็ได้ อย่าไปสัมผัสเชียวล่ะ ” เอวาเตือนกลุ่มคอมมานโดที่เดินผ่านจุดนั้นอย่างระมัดระวังเมื่อพวกเขามาถึงเบื้องล่างสุดของชั้นใต้ดิน ก็พบประตูขนาดใหญ่ที่ถูกบุด้วยวัสดุกันความร้อน ชั้นดี มันอาจจะสามารถรับแรงกระแทกของระเบิดไดนาไมต์ได้โดยไม่บุบสลาย แต่ไม่สามารถต้านทานแรงโจมตีของหุ่นรบรุ่นใหม่แห่งแองกริฟฟ์ได้อย่างแน่นอน ขวานเมกะตันของหุ่นรบได้ทะลวงประตูบานนั้นพังยับเยินในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ทว่าสิ่งซึ่งอยู่เบื้องหลังบานประตู ทำให้ผู้มาเยือนต่างก็ต้องตกตะลึงไปกับความน่าสะพรึงของมัน...

“ นี่มันอะไรกัน... ” ออกัสตินพึมพำ แม้แต่เอวาผู้ร่าเริงในทุกสถานการณ์ก็ยังต้องนิ่งงันให้กับภาพเบื้องหน้า

ในโถงขนาดใหญ่นั้นกลาดเกลื่อนไปด้วยซากและเศษเหล็กของหุ่นยนต์จำนวนมาก ผนังและทุกส่วนของห้องระโยงระยางไปด้วยท่อและสายไฟยาวสีเงินที่ขยับยุบพองเป็นจังหวะราวกับเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงเลือด ท่ามกลางชิ้นส่วนเหล่านั้น มีบัลลังก์ที่ก่อจากหุ่นโลหะนับร้อยทอดตัวยาวขึ้นไปดั่งบันไดมรณะสู่เบื้องบน

ที่บนสุดของบัลลังก์แห่งนั้น มีเด็กสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ เธออยู่ในชุดสีขาวที่เปรอะไปด้วยคราบดำคล้ำของสนิมและน้ำมัน ครึ่งหนึ่งของใบหน้าถูกสวมครอบด้วยหมวกโลหะที่มีดวงตาสีแดงก่ำเรียงรายประหนึ่งดวงตา

ของแมงมุมปิศาจ เรือนผมซีดจางจนกลืนไปกับสีของท่อระโยงระยางมากมายที่เชื่อมต่อเธอเข้ากับท่อขนาดยักษ์ด้านหลัง นี่คือบัลลังก์ของราชินีจักรกลไม่ผิดเพี้ยน

“ น่าสะอิดสะเอียนจริงๆ..” เอวาพึมพำออกมา เธอจดจำได้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร.... ชื่อของเธอคือ มีร่า ลูกสาวเพียงคนเดียวของเกมันน์ซึ่งเคยแวะเวียนมาที่สำนักงานวิจัยของพ่ออยู่ช่วงหนึ่ง

เอวาเคยเห็นเด็กสาวคนนี้นั่งอยู่เพียงลำพังในสวนดอกไม้ แย้มยิ้มไร้เดียงสาให้กับธรรมชาติรอบข้าง

เธอถูกผู้เป็นพ่อนำมาใช้เป็นตัวทดลองอย่างโหดร้ายขนาดนี้เชียวหรือครู่ถัดมาก็มีรายงานการพบศพของมนุษย์จำนวนมากจากลูกน้องคนอื่นๆ คาดว่าเป็นคนที่ถูกจับมาทดลองเช่นเดียวกัน แต่ที่น่าพิศวงยิ่งไปกว่านั้นคือซากร่างของมนุษย์ผู้ชายคนหนึ่งที่ไหม้เกรียม รหัสพันธุกรรมยืนยันให้เห็นว่าเขาคือ ดร.เกมันน์ อิโอเลีย เจ้าของการทดลองวิปริตนี่เอง

“ อะไรกันนี่ …ดร.เกมันน์ตายแล้วอย่างนั้นรึ ถ้าอย่างนั้นใครเป็นคนเจาะระบบกันล่ะ ”

หัวหน้ากลุ่มงุนงงกับผลลัพธ์ที่กลับตาลปัตรอย่างไม่เป็นท่า

“ แต่ว่าหัวหน้าคะ ..สัญญาณการเจาะรหัสข้อมูลมาจากที่นี่ไม่ผิดแน่ค่ะ ”

คอมมานโดหญิงซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบตะโกนขึ้น

“ ตรวจสอบที่มาของร่องรอยภายในห้องนี้ซิ บางทีอาจจะมาจากคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ด้านหลังนั่น” ออกัสตินสั่งการ

“ไม่ใช่ค่ะหัวหน้า .....” ลูกน้องสาวอึกอัก เมื่อกระบวนการตรวจสอบแสดงผลที่หน้าจอเครื่องมือ

“ มันมาจากบนนั้น...จากเด็กผู้หญิงคนนั้นค่ะ ” พวกเขามองขึ้นไปตามมือที่หญิงสาวชี้ เด็กสาวคนนั้นน่ะหรือ ....คือแฮกเกอร์ ‘หุ่นกระบอก’ที่พวกเขาตามหาตัวอยู่ ทีมคอมมานโดเข้าไปตรวจสอบในบริเวณดังกล่าวอย่างระมัดระวังพวกเขาพบว่าเด็กสาวยังคงหายใจอยู่อย่างรวยรินเธอขาดน้ำและอาหารอย่างรุนแรงแต่ทว่ายังคงไม่ได้สติ ร่างผอมบางอ่อนปวกเปียกราวกับไร้กระดูกแค่ยังมีชีวิตอยู่รอดถึงตอนนี้ก็เรียกว่าปาฎิหาริย์แล้วเอวาก้มลงกับพื้นเบื้องหน้าบัลลังก์โลหะ เศษก้อนผลึกสีเขียวเปล่งประกายกระจายอยู่โดยทั่ว เป็นผลึกเดียวกันกับที่เธอเห็นมันตกหล่นอยู่ตามพื้นที่นำมาสู่โถงใต้ดินแห่งนี้

หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อจดจำได้ถึงข้อมูลสำคัญบางอย่าง เกมันน์ อิโอเลีย ได้เรียกร้องให้มีการนำแร่บางอย่างจากทวีปลามูเรีย เพื่อมาใช้เป็นวัตถุดิบในงานวิจัยของเขา เป็นแร่อันตรายสีมรกตที่เกี่ยวพันกับความลับดำมืดของทวีปแห่งนั้น ถ้าอย่างนั้นปริศนาทุกอย่างก็คลี่คลาย...

เกมันน์ได้ทดลองระบบนี้กับตัวทดลองจำนวนมากที่เขาจับมา เมื่อใช้แร่ชนิดนี้ เขาคงสามารถเข้าถึงขุมพลังลึกลับที่ทำให้ระบบวิจัยต้องสาปเป็นจริงได้ ผู้ทดลองรายสุดท้ายคือลูกสาวของตนเอง เขาได้เปลี่ยนให้เธอกลายเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ไปแล้วอย่างสมบูรณ์ และอาจใช้เธอเป็นเครื่องมือในการเจาะเข้าระบบของส่วนกลางเพื่อล้วงความลับของรัฐบาล ด้วยความผิดพลาดหรือเหตุผลบางอย่าง ทำให้แร่เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงและส่งผลให้เกมันน์เสียชีวิตโดยปริศนา

เอวาลุกขึ้นยืนพร้อมกับหันไปมองร่างของผู้รอดชีวิตที่ยังคงเชื่อมอยู่กับสายไฟ เหตุผลที่เด็กสาวยังมีชีวิตอยู่ได้ ก็คงเพราะแร่นี่ด้วยเช่นกัน ช่างน่าประหวั่นพรั่นพรึงเหลือเกิน ในเวลานี้เธอช่างดูเหมือนนางฟ้าที่กำลังหลับใหลอย่างสงบแต่ความสามารถของเธอยิ่งใหญ่และอันตรายเกินกว่าที่จะปล่อยเอาไว้ได้

ยากเหลือเกินที่จะจินตนาการว่า ชะตากรรมของเด็กสาวจะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อเด็กสาวลืมตาขึ้น เธอก็ไม่ได้อยู่ในห้องว่างเปล่าสีขาวอีกแล้ว แต่กำลังแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่

ที่นี่คือ…ที่ไหนกันนะ ?

ความทรงจำสุดท้ายคือภาพของบิดาที่จากไป และตัวเธอที่ตัดสินใจหลับใหลลงเพื่อหนีทุกสิ่ง [ ตื่นแล้วหรือแม่สาวน้อย ] เสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงของสตรีที่เยือกเย็นและทรงอำนาจ

“ ฉันอยู่ที่ไหน แล้วคุณเป็นใคร...” เด็กสาวกล่าวอย่างหวาดหวั่นใจเย็น [ ไม่ต้องห่วงนะ เธอกำลังเชื่อมต่อกับระบบที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย เลยอาจจะไม่คุ้นชินบ้าง

คงต้องใช้เวลาในการปรับตัวสักพักหนึ่ง.... ] เสียงนั้นตอบกลับ [ ....ที่นี่คือระบบปฏิบัติการของกองทัพรัฐบาลแองกริฟฟ์ ส่วนการจัดการข้อมูลและควบคุมจักรกล คงจะกว้างใหญ่พอให้เธอได้มีที่วิ่งเล่นบ้างใช่ไหม ]

เด็กสาวตกใจเมื่อได้ยินถ้อยคำดังกล่าว

[ ใช่แล้ว..ที่นี่เป็นที่ๆเธอเคยเจาะเข้าระบบมาเมื่อไม่นานนี้ ส่วนชื่อของฉันคือนาตาลี ยินดีที่ได้รู้จักนะจ้ะ สาวน้อยนักเชิดหุ่น...อา ไม่สิ เธอคงเป็นเทพธิดามากกว่าสินะ เทพธิดาที่ทำให้พวกหุ่นกระบอกมีชีวิตขึ้นมาได้ ] วินาทีที่ได้ยินนั้นเด็กสาวก็นึกถึงนิทานเรื่อง ‘พินอคคิโอ’ เรื่องของตุ๊กตาไม้ที่เธอเคยอ่านเมื่อครั้งยังวัยเยาว์

[ พวกเรามีเรื่องอยากให้เธอช่วย ...เอาล่ะ จะร่วมมือกับเราได้รึเปล่า แม่นางฟ้าน้อย ? ]

ครืนนนนนนนนนนนนนน ตึง…..

ดวงตาสีแดงก่ำของกองทัพหุ่นกลจำนวนมหาศาลเปล่งประกาย พวกมันได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหลที่ยาวนาน ตุ๊กตากระบอกลืมตาขึ้นมันมองไปรอบๆอย่างสนใจ มันได้รับพรจากนางฟ้าให้มีชีวิตขึ้นมา

ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าคือบ้านของบิดาผู้อารีโลกใหม่ของมันได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว….

และแล้วเรื่องราวทั้งหมดของนิทาน ก็เริ่มขึ้นจากตรงนี้ ...

Follow Us
No tags yet.
Search By Tags
Archive
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page