top of page
Recent Posts
Featured Posts

ฉันคือดอกไม้

ฉันคือดอกไม้ - [ I am the flower ] Story : กิตติ ชาญชลยุทธ (Grimoire) Illust : St.Cygnus

ฉัน คือดอกไม้ ความงามสีแดงชาดที่ถือกำเนิดในดินแดนอันแห้งแล้ง ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้เมื่อตื่นขึ้นคือความเย็นจากของเหลวภายในหลอดทดลอง หญิงสาวคนหนึ่งใช้สายตาเรียบเฉยมองฉันแล้วก้มหน้ากลับไปยังแผ่นกระดาษในมือ เมื่อเธอจดบันทึกรายละเอียดการเติบโตของฉันเสร็จเธอก็เดินไปตรวจเช็คในหลอดทดลองอันต่อๆไป หลอดทดลองมากมายเรียงรายอยู่ภายในอาคารมืดแสงสว่างในห้องนี้มีต้นกำเนิด จากของเหลวสีเขียวอ่อนที่ปกคลุมพวกเราเหล่าดอกไม้เอาไว้ “ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดพร้อมแล้วจะเริ่มทำการทดสอบสมรรถภาพของตัวต้นแบบในวันพรุ่งนี้” หญิงสาวคนเดิมติดต่อกับคู่สนทนาผ่านเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็กเธอเดินกลับมาที่หลอดทดลองของฉันอีกครั้งแล้วป้อนคำสั่งลงบนแป้นควบคุมของหลอดทดลอง ของเหลวที่ปกคลุมตัวฉันไหลออกผ่านส่วนที่เปิดออกจากด้านล่าง “ได้เวลาของเธอแล้ว RS01” นั่นคือช่วงเวลาที่ฉันมีชีวิตขึ้นมาดอกไม้งามย่อมมีหนามที่แหลมคม ฉันถูกออกแบบมาเช่นนั้นในวันถัดมาหลังจากที่ฉันตื่นนักวิจัยในชุดขาวสองคน พาฉันไปยังห้องขนาดใหญ่อีกห้องหนึ่ง ฉันถูกสั่งให้เดินเข้าไปในห้องนั้นตามลำพังห้องโถงขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างแข็งแรงด้วยโลหะนั้นว่างเปล่าฉันเงยหน้าขึ้น มองเห็นนักวิจัยหลายคนกำลังมองฉันผ่านทางกระจกใส “RS01 ภารกิจ กำจัดเทอมินัสอิเรดิเคเตอร์” คำสั่งจากลำโพงพุ่งตรงมายังระบบประมวลผลของฉันริมฝีปากเรียวตอบกลับอย่างอัตโนมัติ “รับทราบ ดำเนินการกำจัดเทอมินัสอิเรดิเคเตอร์” ที่อีกฝากของห้องโถงเปิดออกเครื่องจักรขนาดใหญ่เคลื่อนตัวออกมาจากที่แห่งนั้นมันเป็นเครื่องจักรที่ติดตั้งโล่ไว้ในแขนซ้ายและปืนในแขนขวามันชูแขนขวามาทางฉัน ประจุพลังงานสีฟ้าลั่นส่งเสียงเปรี้ยะๆภายในปืนกระบอกนั้นแล้วถูกยิงออกมาด้วยความรวดเร็ว ประจุพลังงานระเบิดออกเมื่อกระทบกับเป้าหมายจนเกิดควันคละคลุ้งแขนซ้ายของฉันปรากฏแผ่นโลหะบางที่เรียงตัวกันอย่างซับซ้อนสำหรับป้องกันการโจมตีของศัตรู “ความเสียหาย 5% เริ่มทำการตอบโต้” โล่ที่ใช้ป้องกันกลายสภาพเป็นดอกไม้ดอกเล็ก บนหลังมือซ้ายส่วนนิ้วมือขวาของฉันเรียงเรียบชิดติดกันจนดูเหมือนเหล็กแหลมระบบประมวลผลบอกฉันว่า เทอมินัสอิเรดิเคเตอร์จำเป็นต้องใช้เวลาสองวินาทีในการชาร์จพลังงานสำหรับการโจมตีครั้งถัดไปฉันใช้แขนขวาของตนเองแทงทะลุปืนของเทอมินัสอิเรดิเคเตอร์เพื่อขัดขวางการชาร์จพลังงาน ฉันใช้ร่างกายที่ใหญ่โตของมันเป็นที่เหยียบเพื่อดีดตัวออกห่างในเสี้ยววินาทีที่ปืนของมันระเบิดเนื่องจากการถ่ายพลังงานขัดข้อง “ค้นหาจุดอ่อน...พบจุดอ่อน...หัว ทำการกำจัด” ฉันพุ่งเข้าไปหามันอีกครั้งเทอมินัสอิเรดิเคเตอร์ใช้โล่ในมือซ้ายยกขึ้นป้องกันส่วนศีรษะของตนเหล็กแหลมที่กระแทกกับโล่ก่อให้เกิดเสียงแหลมบาดหูแต่ประสาทการได้ยินของฉันไม่ได้รับความเสียหายจากเสียงเช่นนั้น ฉันใช้มือซ้ายจับโล่ของมันเอาไว้แล้วส่งแรงไปยังขาเพื่อดีดตัวเองข้ามโล่อันใหญ่แขนข้างขวาตวัดกลับหลังเพื่อตัดหัวของเป้าหมายโดยไม่ต้องหันไปมองแต่อย่างใด “ภารกิจเสร็จสิ้น” เหล่านักวิจัยปรบมือให้กับสรรถภาพการทำงานของสิ่งที่พวกตนสร้างขึ้น ฉันที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเขม่าควันถูกพาตัวออกไปจากห้องโถงเพื่อทำความสะอาดร่างกายให้งดงามเฉกเช่นดอกไม้ดังเดิม วันรุ่งขึ้น ฉันได้รับภารกิจให้กำจัดเป้าหมาย จากนั้นจึงได้รับการทำความสะอาด วันต่อมา ฉันได้รับภารกิจให้กำจัดเป้าหมาย จากนั้นจึงได้รับการทำความสะอาด วันรุ่งขึ้น ฉันได้รับภารกิจให้กำจัดเป้าหมาย จากนั้นจึงได้รับการทำความสะอาด วันรุ่งขึ้นก็เช่นกัน แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป ฉันถูกพาขึ้นเครื่องโดยสารทางอากาศอันน่าภาคภูมิใจของแองกริฟฟ์เพื่อเดินทางไปกำจัดเป้าหมายที่อยู่ในอีกดินแดนหนึ่ง เป้าหมายในภารกิจครั้งนี้ของฉันถูกเรียกว่า ‘มังกร’ซึ่งฐานข้อมูลของฉันบันทึกเอาไว้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการเคลื่อนที่ในอากาศและการโจมตีด้วยพลังงานธรรมชาติต่างๆ จากรายงานที่ส่งมายังหน่วยภารกิจแจ้งมาว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้นมีจำนวนมังกรเพิ่มมากขึ้นจนผิดปกติและพวกมันหลายตัวพยายามที่จะอพยพมาทางไฮเซนเบิร์กโดยมีเป้าหมายเป็นเกาะศูนย์วิจัยเล็กๆ แห่งหนึ่ง ฉันซึ่งอยู่ในช่วงทดสอบการทำงานจึงถูกส่งมาเข้าร่วมในภารกิจนี้พร้อมกับเครื่องจักรตนอื่นๆเครื่องโดยสารนับสิบลำออกตัวจากท่าอากาศยานอย่างเป็นระเบียบเพื่อตรงไปยังพื้นที่เป้าหมาย เมื่อเครื่องโดยสารลอยตัวขึ้นมาถึงระดับความสูงที่กำหนดว่าปลอดภัยเหล่าลูกเรือก็ลุงออกจากที่นั่งเพื่อหากิจกรรมทำฆ่าเวลา ฉันที่เป็นดอกไม้มองพวกเขาอย่างเงียบๆลูกเรือหลายคนมาล้อมวงดูดอกไม้ หลายคนบอกว่าสวย งดงามแบบไร้ที่ติ แต่บางคนกลับบอกว่าน่าเกลียด ดูแห้งและไร้ชีวิตชีวาระบบประมวลผลของฉันทำงานเพื่อวิเคราะห์ปัญหาของระบบการทำงาน‘แห้ง’ ‘ไร้ชีวิตชีวา’ แต่ไม่ว่าระบบจะทำการตรวจสอบกี่ครั้งก็ไม่พบปัญหาดังกล่าวสำนึกของฉันจึงสรุปว่า ‘แห้ง’ ‘ไร้ชีวิตชีวา’ ไม่ใช่ข้อผิดพลาดระบบจึงทำการหยุดวิเคราะห์ในส่วนนั้นไป เวลาของการเดินทางดำเนินไปอย่างสงบจนกระทั่งสัญญาณเตือนภัยสีแดงร้องระงมไปทั่วเครื่องโดยสารพวกเขากำลังถูกโจมตีทางอากาศโดยไม่ได้ตั้งตัวเกิดการระเบิดและแรงสั่นสะเทือนอยู่บ่อยครั้งเครื่องโดยสารเดินทางด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น ตู้ม! เครื่องโดยสารของเราระเบิดจากการโจมตีด้วยพลังงานความร้อนสูงระบบการทำงานของเครื่องโดยสารขัดข้อง ห้องโดยสารเกิดรูโหว่ขนาดใหญ่แรงดันอากาศจากรูโหว่ดูดสิ่งของภายในให้ออกไปประสบภัยบนท้องฟ้ากว้างลูกเรือต่างดึงร่มชูชีพของตนออกเพื่อรอรับความช่วยเหลือในภายหลัง แต่ฉันที่เป็นเพียงดอกไม้ทำได้เพียงร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง

 

บันทึกของวัลลิลลี่ เดือน 5 วันที่ 11 โบทาเนียกำลังเข้าสู่เทศกาลบวงสรวงรุกขชาติซึ่งจะจัดขึ้นในทุกๆหนึ่งร้อยปีที่ต้นอิคดราซิลต้นไม้ที่ตั้งอยู่ในใจกลางเกาะโบทาเนียจะปล่อยพลังเวทที่สะสมเอาไว้แล้วส่งมอบให้แก่ทุกชีวิต ที่อาศัยในโบทาเนีย ท่านดีมีเตอร์ ผู้ปกครองแห่งโบทาเนียได้กำชับให้เหล่า ‘พืชพันธุ์’ ทั้งหลายเตรียมพิธีให้เรียบร้อยอย่างไม่ขาดตกบกพร่องและเพิ่มการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเกาะเข้ามาขโมยพลังเวทจากอิคดราซิล เกาะโบทาเนียที่เดิมทีจะลอยอยู่บนฟ้าเหมือนกับเกาะอื่นๆ ของทวีปเลมูเรียในตอนนี้มันกลับตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลเฉกเช่นเกาะทั่วไป ที่ไร้พลังเวทปรากฏการณ์นี้เองเป็นเพราะอิคดราซิลกำลังรวบรวมพลังเวทไว้ที่ลำต้นของมัน ฉันตัดสินใจไปเดินเล่นที่ปลายเกาะเพื่อชมความงามของทะเลใต้แสงจันทร์ลมหนาวของยามค่ำคืนทำให้กลีบของฉันสีซีดลงเล็กน้อย แต่วิวทิศทัศน์ที่นานทีจะได้มีโอกาสสัมผัสนั้นก็ทำให้ฉันอดทนต่อความหนาวนี้ได้ แต่ท่ามกลางความเงียบสงบอันน่ารื่นรมย์ฉันก็บังเอิญได้พบกับความแปลกประหลาดมีบางสิ่งถูกพันเกี่ยวเอาไว้ด้วยเถาวัลย์ของต้นไม้ต้นหนึ่งที่ลากยาวลงไปในทะเลนั่นเป็นตอนที่ฉันได้พบกับเธอ ‘ดอกไม้’ แสนงดงามราวกับเทพเจ้าทรงปั้นดอกไม้ที่ไม่ใช่ ‘ดอกไม้’

 

บันทึกของวัลลิลลี่ เดือน 5 วันที่ 12 ฉันพาเธอที่ได้สติมายังหมู่บ้านดอกไม้สาว ผู้มีเส้นยาวผมสีแดงและเสื้อผ้าที่ดูแปลกตามีสีหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใดเหล่าดอกไม้ในหมู่บ้านต่างให้ความสนใจกับเธอผู้มีผมสีแดง “เธอชื่ออะไรเหรอ” “เธอมาจากเกาะอื่นอย่างนั้นเหรอ” แต่ดอกไม้สีแดงไม่ตอบโต้อะไรพวกเราจึงคิดว่าเธออาจจะบาดเจ็บอยู่จึงพาเธอไปพักผ่อน

 

บันทึกของวัลลิลลี่ เดือน 5 วันที่ 13 เธอคนนั้นไม่พูดคุยหรือเปิดปากเลยแม้แต่น้อยคุณหมอที่ถูกเรียกมาเพื่อดูอาการของเธอบอกฉันว่าเธอไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่เธอเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ หรือ ก็คือเธอไม่ใช่ดอกไม้ แบบที่ฉันเป็น ฉันไม่เข้าใจที่คุณหมอบอก เห็นๆ อยู่ว่าเธอก็เป็นดอกไม้ อะไรคือดอกไม้ที่ไม่ใช่ดอกไม้พอหมอกลับไปฉันก็เริ่มทำการสำรวจเธอคนนั้นแล้วก็ได้พบถึงความแปลกประหลาดของเธอ เธอไม่ต้องการน้ำหรืออาหาร เธอสามารถนั่งนิ่งๆ เฉยๆ ได้เป็นชั่วโมง ถ้าฉันไม่ได้บอกให้เธอเดินออกมาจากบ้าน เธอก็จะนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหนแม่แต่นิดเดียว ทั้งวันของฉันจึงหมดไปในการพยายามสื่อสารกับเธอ เธอเข้าใจที่ฉันพูดนั่นเป็นเรื่องดี อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้กำลังคุยกับรูปปั้นอยู่ แต่เธอแค่ทำตามคำสั่งราวกับสัตว์เลี้ยง ฉันตัดสินใจที่จะให้เธอพักอยู่กับฉันจนกว่าฉันจะหาคำตอบได้ว่าเธอเป็นอะไร

 

บันทึกของวัลลิลลี่ เดือน 5 วันที่ 14 ฉันกลับมาทำหน้าที่ของตนในการเตรียมงานบวงสรวงรุกขชาติ แต่จะทิ้งเธอคนนั้น อยู่คนเดียวไม่ได้ฉันจึงพาเธอมาทำงานด้วย ดูเหมือนเธอจะไม่เคยทำงานฝีมือมาก่อนฉันต้องสอนเธอจัดช่อดอกไม้โดยการกุมมือเธอเอาไว้ราวกับเด็ก ฉันทำให้เธอดูเป็นตัวอย่างครั้งหนึ่ง ช่วยเธอทำอีกครั้งหนึ่งในครั้งต่อไปเธอก็เริ่มทำเองได้แล้ว ดูเหมือนเธอจะหัวไวน่าดู งานของฉันเสร็จเร็วขึ้นเมื่อได้เธอมาช่วยอีกหนึ่งแรงฉันลองพาเธอไปช่วยงานในส่วนต่างๆ เพื่อให้เธอไม่เบื่อ เธอไม่บ่นอิดออดอะไรแค่เพียงทำตามที่สอนแบบไม่พูดไม่จาฉันหวังว่าเธอจะสนุกกับมันนะ

 

บันทึกของวัลลิลลี่ เดือน 5 วันที่ 17 เธอทำงานได้คล่องแคล่วจนใครๆ ต่างก็ชื่นชม งานที่เธอทำนั้นล้วนประณีตบรรจง จนหาข้อติไม่ได้เลยเหล่าดอกไม้ต่างคุ้นเคยกับเธอแล้ว เธอได้ชื่อเล่นว่า “โรไซเลนท์” ซึ่งเป็นการหยอกล้อระหว่างคำว่า ‘โรส’ ที่แปลว่าดอกกุหลาบซึ่งมีสีแดงเหมือนกับสีผมของเธอ กับ ‘ไซเลนท์’ ที่แปลว่าเงียบงัน เนื่องจากเพื่อนสาวคนนี้ไม่เคยพูดกับใคร ฉันฟังแล้วรู้สึกเหมือนเธอกำลังโดนรังแกแต่น่าแปลกที่เธอพยักหน้ารับทุกครั้งที่มีใครก็ตามเรียกชื่อนั้น เธออาจจะชอบมันก็ได้

 

บันทึกของวัลลิลลี่ เดือน 5 วันที่ 19 พรุ่งนี้เป็นวันงานบวงสรวงรุกขชาติแล้วจึงทำให้พวกเราเร่งมือกันเป็นพิเศษ ปะรำพิธีถูกสร้างขึ้นอย่างสวยงามด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ในช่วงบ่ายท่านดีมีเตอร์เข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยของงานเป็นครั้งสุดท้ายท่านพึงพอใจกับงานที่พวกเราทำเป็นอย่างมาก เหล่าดอกไม้ต่างแนะนำกับท่านดีมีเตอร์ว่าได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนใหม่ ชื่อโรไซเลนท์จึงทำให้งานออกมาสวยสดงดงามท่านดีมีเตอร์ฉงนว่าโรไซเลนท์เป็นใคร ฉันจึงแนะนำเธอให้ท่านรู้จักและบอกท่านว่าเธอเป็นดอกไม้จากดินแดนอื่นที่ได้รับบาดเจ็บ ท่านดีมีเตอร์ลูบหน้าของโรไซเลนท์อย่างแผ่วเบาโรไซเลนท์ไม่ได้โต้ตอบอะไร “น่าสงสารเหลือเกิน”ท่านดีมีเตอร์พูดไว้เช่นนั้นก่อนจะไปตรวจความเรียบร้อยของงานที่เหลือ ฉันเตรียมเสื้อผ้าสำหรับงานในวันรุ่งขึ้นอย่างเพลิดเพลิน จะสีแดง สีเหลืองหรือสีฟ้าต่างก็สวยไปหมด “ฉันจะใส่สีฟ้า โรสล่ะจะใส่สีไหนดี” ฉันเอ่ยถามกับเธอที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เธอไม่ตอบฉันฉันจึงเลือกเสื้อสีขาวอ่อนให้กับเธอ “ฉันมีดอกสีขาวจะใส่เสื้อสีแดงส่วนเธอมีดอกมีแดงก็ใส่ชุดสีขาวเหมือนสีดอกของฉัน โอเคนะ” โรสไม่ได้ปฏิเสธ “นอนกันเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” ฉันยืดลำตัวเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการใช้แรงมาตลอดวันโรสเองก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับไปยังโซฟาที่เป็นที่นอนของตน ฉันเองก็ล้มตัวลงบนที่นอนของฉันมือขวาโบกสะบัดสั่งให้หลอดไฟเวทมนตร์หยุดทำงาน “ราตรีสวัสดิ์โรไซเลนท์”ฉันกล่าวโดยที่รู้ว่าจะไม่มีสิ่งใดตอบกลับมา

 

◙ 6.00 เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอบอกว่าชุดพิเศษสำหรับวันพิเศษเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ฉัน “โรสคิดว่าฉันสวยไหม” เธอถามฉัน แต่ฉันไม่รู้ว่า ‘สวย’ คืออะไร วัลลิลลี่ยิ้ม ◙ 7.30 ในเมืองเต็มไปด้วยดอกไม้และเสียงสัญญาณที่ชื่อว่า ‘ดนตรี’ อาหารมากมายถูกส่งและรับให้แก่กันระหว่างดอกไม้สู่ดอกไม้ รวมถึงฉันทุกคนต่างอยู่ในเครื่องแต่งกายที่พิเศษ ทุกคนต่างมีจุดหมายอยู่ที่ต้นอิคดราซิลซึ่งอยู่ใจกลางเกาะลำต้นของมันสูงใหญ่กว่าต้นไม้ใดๆ ที่มีการบันทึกเอาไว้ในฐานข้อมูลของฉัน “อิคดราซิลคือผู้ที่มอบชีวิตแก่ดอกไม้และต้นไม้ให้แก่โบตาเนียเหมือนกับแม่ของพวกเราทุกคน” แม่หมายถึงผู้มอบชีวิตหากเป็นเช่นนั้นแม่ของฉันคือเหล่านักวิจัยในไฮเซนเบิร์ก ◙ 10.00 ตอนนี้เป็นเวลาที่กำหนดการวางไว้เสียงดนตรีเปลี่ยนรูปแบบไป เหล่าดอกไม้ต่างอยู่ในความเงียบ ดีมีเตอร์ผู้เป็นผู้นำของที่นี่ เดินไปยังโคนของต้นอิคดราซิลเซนเซอร์ตรวจวัดพลังงานของฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานมหาศาลภายในต้นอิคดราซิล พลังงานเหล่านั้นออกแรงกระเพื่อมเป็นจังหวะราวกับชีพจรมนุษย์ ดีมีเตอร์สัมผัสผิวของต้นอิคดราซิล ดอกไม้สองตนสัมผัสแขนของดีมีเตอร์ ดอกไม้สี่ตนสัมผัสแขนของดอกไม้สองต้นนั้น เหล่าดอกไม้สัมผัสร่างกายต่อกันราวกันแห วัลลิลลี่กุมมือของฉันไว้ ส่วนฉันที่อยู่ไกลจากต้นอิคดราซิลที่สุดจึงไม่มีใครมาสัมผัสต่อ ฉันสัมผัสได้ว่าพลังงานของอิคดราซิลกำลังส่งผ่านสู่เหล่าดอกไม้ ต้นไม้และผืนดิน อิดดราซิลกำลังส่งมอบชีวิตให้กับโบตาเนีย ฉันเข้าใจเช่นนั้น ◙ 10.34 สิ่งมีชีวิตเหมือนกับภูเขาสีเขียวที่ปกป้องเมืองล้มลงพร้อมกับการปะทุของเสียงระเบิด ชาวดอกไม้ต่างตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เสียงดนตรีเงียบลง เลเซอร์และระเบิดจำนวนมากถูกยิงมายังพื้นที่รอบๆต้นอิคดราซิล เพื่อขับไล่เหล่าดอกไม้ วัลลิลลี่และฉันพากันวิ่งมาหนีไปอยู่ภายใต้การปกป้องของเหล่าภูเขาและนักรบ แต่เสื้อผ้าของ วัลลิลลี่นั้นยาวเกินไปจนขัดขวางการเคลื่อนไหวเธอล้มลง ลำแสงเลเซอร์กำลังพุ่งเข้าหาเธอ แผ่นโลหะบางบนมือซ้ายของฉันกางออกทะลุเครื่องแต่งกายพิเศษที่วัลลิลลี่มอบให้แต่แสงเลเซอร์นั้นมีความรุนแรงสูงเกินกว่าที่อุปกรณ์ของฉันจะต้านไหวโล่กุหลาบสีแดงพังทลายโดยไม่สามารถปกป้องใครได้เลย “วัลลิลลี่” นั่นเป็นคำพูดแรกที่ออกมาจากปากของฉันโดยไม่ได้ผ่านการประมวลผลนับตั้งแต่ถูกสร้างขึ้น ดอกไม้สาวล้มลงกับพื้นพร้อมกับเลือดสีแดงที่ทะลักออกมาจากปากแผลบนอกของเธอเซนเซอร์ของฉันบอกว่าเธอกำลังจะตาย ฉันอุ้มเธอขึ้นเพื่อจะไปยังที่ปลอดภัยแต่ในตอนนั้นเอง ที่สัมผัสฉันได้ถึงสัญญาณการสื่อสารที่ปล่อยออกมาจากเครื่องจักรของไฮเซนเบิร์ก “ฉันคือ AIRA โปรดแสดงโค้ด” เครื่องจักรสีแดงบินลงมาขวางหน้าฉันเครื่องจักรนั้นมีปีกสีแดงและสัญลักษณ์ของรัฐบาลแองกริฟฟ์ที่หน้าอก “RS01 ร่างทดลองของสถาบันพันธุกรรมศาสตร์แห่งแองกริฟฟ์” ระบบสั่งให้ฉันตอบคำถามของ ไอร่า ทั้งๆที่ฉันจำเป็นต้องพาวัลลิลลี่ไปรับการรักษา วัลลิลลี่กำลังจะตาย ดอกไม้สาวที่ดูแลฉันซึ่งเป็นสิ่งแปลกปลอม ดอกไม้สาวที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอแม้ว่าฉันจะไม่เคยพูดกับเธอ ดอกไม้สาวที่กุมมือฉันไว้เมื่อ 4 นาทีก่อนหน้านี้ ดอกไม้ที่ ‘มีชีวิตชีวา’ เธอกำลังจะตาย “ติดต่อหน่วยสื่อสาร...RS01 ไม่ได้เข้าร่วมภารกิจขโมยแหล่งพลังเวทของแดนพฤกษา...RS01 มีคำสั่งให้กลับไฮเซนเบิร์กด้วยเครื่องบินหมายเลข 2” ระบบประมวลผลสั่งให้ฉันทิ้งวัลลิลลี่ไว้ที่ตรงนี้ตามคำสั่งที่ได้รับ “...ปฏิเสธคำสั่ง” ฉันไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบของตนเองฉันปฏิเสธคำสั่งที่ได้รับ คำสั่งที่มีเพียงแต่ต้องคำตามโดยไม่อาจโต้แย้ง “RS01 ขัดขืนคำสั่ง ทำการกำจัด” ไอร่าโผทะยานขึ้นสู่ฟ้ามือทั้งสองปล่อยพลังงานความเข้มข้นสูงเพื่อโจมตีเป้าหมาย ฉันที่อุ้มวัลลิลลี่เอาไว้ไม่อาจหลีกหนีจากการโจมตีดั่งฝนบนฟ้าได้ ฉันเหมือนกับเป้าหมายก่อนๆ ที่ฉันเคยกำจัด ทำได้เพียงขัดขืนดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะพังทลายแขนซ้ายได้รับความเสียหาย ไม่อาจใช้งานได้ประสาทสัมผัสเสียงได้รับความเสียหาย ไม่อาจใช้งานได้หัวจ่ายพลังงานได้รับความเสียหาย ไม่อาจใช้งานได้ขาได้รับความเสียหาย ไม่อาจใช้งานได้เข่าฉันทรุดลงกับพื้น แต่แขนขวายังคงพยุงวัลลิลลี่ไว้อย่างดี ชีพจรของดอกไม้สาวเต้นช้าลงๆ ในทุกขณะ “ขอ...โทษ...ด้วย” เป็นอีกครั้งที่ฉันพูดโดยไม่ผ่านการประมวลผลของระบบ “…..” วัลลิลลี่พูดบางสิ่งตอบกลับมาโดยที่ฉันไม่อาจได้ยิน ไอร่าชาร์จประจุพลังงานลูกใหญ่เพื่อทำลายฉันที่ใกล้หมดสภาพให้สิ้นซากในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาทีของความตาย “ฉันจะปกป้องเธอวัลลิลลี่” นั่นคือช่วงเวลาสุดท้ายของ RS01 และ เป็นจุดเริ่มต้นของผู้พิทักษ์ตนใหม่แห่งโบทาเนีย...

 

บันทึกเหตุการณ์การบุกรุกของไฮเซนเบิร์กเมื่อวันที่ 20 เดือน 5 ไฮเซนเบิร์กได้ทำการขัดขวางพิธีบวงสรวงรุกขชาติด้วยเครื่องบินจู่โจม 10ลำ และ ร่างทดลองที่มีเวทมนตร์เป็นองค์ประกอบ เป้าหมายของข้าศึก คือเวทมนตร์แห่งชีวิตของ อิคดราซิลการจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวครั้งนี้ทำให้กองทัพของโบตาเนียทำได้เพียงตั้งรับเพื่อรักษาชีวิตของประชาชนเอาไว้ นายหญิงดีมีเตอร์ ใช้พลังของตนในการคุ้มครองเหล่าประชาชนไว้จึงทำให้ข้าศึกเข้าถึง ต้นอิคดราซิลได้ เหตุการณ์ครั้งนั้นควรจะจบลงด้วยการล่มสลายของโบตาเนีย แต่กลับมีเรื่องน่าอัศจรรย์เกิดขึ้น เมื่อเถากุหลาบโลหะงอกขึ้นมาจากผืนดินและทำลายเครื่องบินของผู้บุกรุกจนสิ้นซาก เถากุหลาบโลหะเปรียบดั่งอสูรร้ายที่เกรี้ยวกราดและเข้าโจมตีทุกสิ่งที่เฉียดเข้าใกล้ จึงเป็นโอกาสให้ประชาชนได้อพยพเข้าสู่ที่ปลอดภัยและเป็นโอกาสที่กองกำลังของโบทาเนียได้ทำการตอบโต้ กองทัพไฮเซนเบิร์กไม่อาจเข้าถึงศูนย์กลางของอิคดราซิลได้และจำต้องล่าถอยกลับไป ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้มีทั้งสิ้น 1 ราย “เราขอมอบนามใหม่ให้แก่เจ้า ดอกไม้สีแดงผู้ได้รับความรักจากอิคดราซิลอิคดราซิลได้มอบพลังให้แก่เจ้าเพื่อปกปักษ์แผ่นดินนี้ชีวิตอันยิ่งใหญ่สถิตอยู่ในเจ้าเช่นเดียวกับที่สถิตอยู่ในเรา เราล้วนมีชีวิตเป็นหนึ่งโรไซเลนท์ ผู้พิทักษ์แห่งโบตาเนียเอ๋ยจงสาบานต่อเหล่าพฤกษาว่าเจ้าจะปกป้องพวกเขาตราบสิ้นลมหายใจ” “ข้าขอสาบานต่อชาวโบตาเนียทุกคน ข้า โรไซเลนท์จะปกป้องทุกชีวิตบนผืนดินนี้ตราบจนร่างนี้แหลกสลายกลับคืนสู่อิคดราซิล!” ฉันประกาศก้องต่อเหล่าชาวพฤกษา ฉันประกาศคำสาบานด้วยหัวใจถึงแม้ร่างกายฉันจะยังเป็นเครื่องจักรแต่สิ่งที่ขับเคลื่อนอยู่ภายในคือชีวิตและวิญญาณ

Follow Us
No tags yet.
Search By Tags
Archive
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page