top of page
Recent Posts
Featured Posts

โนอาห์ – The nightmare man

โนอาห์ – The nightmare man Story : จิรกิตติ์ ตันติวงศ์กานต์

ไฮ เซนเบิร์ก ดินแดนแห่งเทคโนโลยีและเครื่องจักรอันล้ำสมัย สถานที่ๆวิทยาศาสตร์เจริญถึงขีดสุดจนสามารถต่อกรกับอำนาจลี้ลับอย่างเวทมนตร์ได้และเต็มไปด้วยทรัพย์ยากรอันมีค่ามากมายทั้งเหมืองแร่หายาก พื้นที่อันอุดมสมบูรณ์และทำเลที่ตั้งอันเป็นจุดยุทธศาสตร์หากแต่เป็นดินแดนที่ถูกปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการนาม ‘แองกริฟฟ์’ รัฐบาลที่ปกครองประชาชนด้วยความโหดเหี้ยมและเด็ดขาดมาช้านานการกดขี่ข่มเหงผู้คนของแองกริฟฟ์สร้างความไม่พอใจให้ผู้คนจำนวนมาก ซึ่งต่อมาคนเหล่านั้นได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มต่อต้านหรือเรียกกันว่ากลุ่มกบฏและทำการต่อสู้กับแองกริฟฟ์เรื่อยมาสำหรับพวกกลุ่มต่อต้านแล้วแองกริฟฟ์คือความชั่วร้ายที่ต้องกำจัด แต่นั่นไม่ใช่กับเหล่าทหารของจักรวรรดิ โดยเฉพาะหน่วยรบพิเศษ ‘ ไนท์แมร์ ’ (Nightmare) หน่วยรบที่ขึ้นตรงต่อเขตปกครองที่ 4 (Red Level) ศูนย์บัญชาการกลางของกองทัพแห่งจักรวรรดิ ไนท์แมร์คือหน่วยรบพิเศษที่เกิดจากคัดเลือกเด็กกำพร้าที่มีพรสวรรค์จากสถานสงเคราะห์ของกองทัพอนาไฮม์ แล้วนำมาฝึกฝนการทหารตั้งแต่ยังเล็ก เด็กๆจะถูกฝึกสอนอย่างเข้มงวดทั้งการต่อสู้ การใช้อาวุธ การวางแผน การโจรกรรมและศาสตร์อื่นๆ อีกมากมายที่จำเป็นต่อการบรรลุภารกิจและที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความจงรักภักดีต่อจักรวรรดิ สำหรับหน่วยรบไนท์แมร์ แองกริฟฟ์ คือความถูกต้อง จักรวรรดิ คือความยุติธรรม รัฐบาล คือผู้ที่มีอำนาจสูงสุดโดยชอบธรรมและพวกเขายอมทำทุกอย่างเพื่อรักษาความมั่นคงของกองทัพโดยไม่ลังเล... แม้แต่การสละชีวิต

ไม่อยากจะเชื่อ... พวกเขาติดกับ หน่วยไนท์แมร์ได้รับภารกิจให้คุ้มกันขบวนรถไฟขนส่งอาวุธไปยังบัลแทร์ค่ายทหารของที่เขตชายแดนของจักรวรรดิแต่แล้วพวกเขาก็ถูกลอบโจมตีโดยกลุ่มกบฏ เป้าหมายของพวกมันคือการปล้นอาวุธยุทโทปกรณ์ที่ทางรัฐบาลส่งมาให้ค่ายบัลแทร์เพื่อไปเสริมกำลังรบของตน กลุ่มกบฏทำการจู่โจมโดยไม่ให้ตั้งตัวและด้วยจำนวนที่มากกว่าทำให้ฝั่งจักรวรรดิเสียเปรียบเป็นอย่างมาก ไม่นานการต่อสู้ก็เริ่มปรากฏผลลัพธ์ออกมา ฝั่งกบฏยังคงเหลือกำลังรบอีกมาก ในขณะที่ทางจักรวรรดิเหลือคนน้อยเต็มที แม้แต่หน่วยไนท์แมร์ที่เป็นหน่วยรบชั้นยอดก็ยังไม่อาจต้านทานไว้ได้ “...ทำลายอาวุธทั้งหมดทิ้งซะ!” ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผมสีน้ำเงินในชุดสีดำพร้อมเสื้อกันกระสุนออกคำสั่ง เขาคือโนอาห์ หัวหน้าหน่วยไนต์แมร์โอกาสรอดของพวกเขาเหลือน้อยมาก สู้ต่อไปก็คงไม่มีทางชนะ หากต้องปล่อยให้อาวุธพวกนี้ตกอยู่ในมือของกบฏสู้ทำลายทิ้งยังดีกว่าทุกคนปฏิบัติตามคำสั่งของโนอาร์อย่างเคร่งครัดพริบตาเดียวอาวุธที่ถูกบรรทุกในแต่ละโบกี้ก็ถูกระเบิดจนหมด ถึงภารกิจหลักจะล้มเหลวแต่พวกเขาก็ปกป้องวิทยาการของจักรวรรดิเอาไว้ได้ แต่แค่นั้นยังไม่พอยังไงพวกเขาก็คงไม่รอดแล้วถ้าจะต้องตายพวกเขาก็จะขอลากพวกกบฏไปด้วยให้มากที่สุด “แองกริฟฟ์ จงเจริญ!” โนอาร์ตะโกนปลุกใจคนในหน่วยที่ยังเหลือรอดอยู่หน่วยไนต์แมร์เผชิญหน้ากับกลุ่มกบฏด้วยความฮึกเหิม...การต่อสู้ในครั้งนั้นฝั่งจักรวรรดิไม่มีผู้รอดชีวิต

เฮือก! โนอาห์สะดุ้งตื่นขึ้นมา เขาหอบหายใจและเหงื่อแตกพลั่ก ชายหนุ่มหยิบขวดน้ำแร่ที่อยู่ใกล้ๆ มาดื่มเพื่อให้ใจเย็นลง เมื่อครู่นี้เขาฝันร้าย ฝันว่าเขากับหน่วยไนท์แมร์ทำภารกิจบางอย่างล้มเหลว แล้วเสียชีวิตกันทั้งหมด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โนอาห์ฝันแบบนี้ เขาฝันร้ายแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่จำความได้ ฝันร้ายแต่ละครั้งจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปซึ่งเขาจำไม่ค่อยได้นัก แต่สิ่งที่เหมือนกันและโนอาห์จำได้แม่นยำคือ การเสียชีวิตของเขา “...เป็นลางไม่ดีเลยแฮะ” โนอาห์พึมพำขึ้นมา อย่างที่บอกนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาฝันร้ายแบบนี้ ซึ่งปกติแล้วหลังตื่นขึ้นมาเขาก็คงคิดแค่ว่ามันเป็นฝันร้ายและไม่เก็บมาใส่ใจ แต่ถ้าวันนี้ต่างออกไป หน่วยไนท์แมร์ของเขากำลังจะปฏิบัติภารกิจพิเศษ มันคือการบุกไปยังชุมชนไคลน์แสตดท์ ( Kleinstadt ) ซึ่งรัฐบาลได้ข้อมูลลับมาว่า มีฐานที่มั่นของพวกกลุ่มกบฏซ่อนอยู่ โนอาห์ฝันร้ายถึงความตายของตนในวันที่จะต้องออกปฏิบัติภารกิจพอดี “...แองกริฟฟ์ จงเจริญ” โนอาห์สลัดความวิตกกังวลทั้งหมดทิ้งไปขณะลุกขึ้นจากเตียงอย่างแข็งขันมันไม่สำคัญเลยว่าในภารกิจนี้เขาจะมีชีวิตรอดหรือไม่ ภารกิจครั้งนี้สำคัญมากเพราะหากพวกเขาสามารถทำลายฐานที่มั่นของพวกกบฏได้ก็จะทำให้พวกมันเสียศูนย์ได้อีกพักใหญ่ รัฐบาลสามารถใช้ช่วงเวลานั้นทำการกวาดล้างอย่างเด็ดขาดพร้อมนำสันติสุขมาสู่ไฮเซนเบิร์กอีกครั้งได้เขาพร้อมทุ่มเททุกอย่างทั้งเลือดเนื้อและจิตวิญญาณเพื่อแองกริฟฟ์อย่างสุดหัวใจ ขณะเดินทางไปยังห้องปฏิบัติการโนอาห์ได้พบเด็กสาวคนหนึ่งเด็กสาวผมสั้นสีขาว ในชุดทหารสีดำ มีไฝใต้ตาอันเป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกับดวงตาสีแดงราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงตลอดเวลา “อรุณสวัสดิ์ครับ พลโท นาตาลี” โนอาห์แสดงความเคารพผู้บังคับบัญชา เธอ คือ นาตาลีเด็กสาวที่ได้รับตำแหน่งพลโทแห่งกองทัพแองกริฟฟ์ทั้งที่อายุยังน้อย แต่ด้วยความสามารถอันล้นหลามจนเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะ ทำให้ไม่มีใครกังขาต่อตำแหน่งที่เธอได้รับเลยหลายคนเชื่อด้วยซ้ำว่าศักยภาพของเธอยังไต่เต้าขึ้นไปได้สูงกว่านี้อีก หน่วยไนท์แมร์ของเขาขึ้นตรงต่อนาตาลี “อรุณสวัสดิ์ ชั้นพิเศษ โนอาห์ ดีใจที่ได้พบคุณก่อนออกปฏิบัติภารกิจ”นาตาลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง “คุณคงรู้ว่าภารกิจในครั้งนี้สำคัญมากแค่ไหนฉันขออวยพรให้หน่วยไนท์แมร์ปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จลุล่วง” “รับทราบครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างมาก” โนอาห์เดินทางไปยังห้องปฏิบัติการต่อ เช่นเดียวกับนาตาลีที่แยกไปทำหน้าที่ของตนโดยไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว ไคลน์แสตดท์เป็นชุมชนขนาดกลางของพวกชายแดนแสดงความไม่พอใจต่อการปกครองของแองกริฟฟ์เป็นบางครั้งแม้จะไม่ได้ทำอะไรที่แสดงความเป็นปรปักษ์อย่างชัดเจนแต่ก็มีข่าวลือว่าพวกคนในชุมชนแอบให้การสนับสนุนพวกกบฏซึ่งมีความสอดคล้องกับข้อมูลลับเรื่องฐานที่มั่นพอดีตอนนี้ทหารของแองกริฟฟ์ได้กระจายกำลังบางส่วนทำการปิดล้อมชุมชนได้ไว้แล้ว เหลือแค่รอสัญญาณเท่านั้น กองกำลังทั้งหมดก็จะเข้าควบคุมพื้นที่ไว้พร้อมทำการตรวจค้นซึ่งจะนำโดยหน่วยไนท์แมร์ หากพบความมีพิรุธก็สามารถจัดการขั้นเด็ดขาดได้ทันที “เริ่มได้” โนอาห์ให้สัญญาณทหารของจักรวรรดิบุกเข้าไปในไคลน์แสตดท์พร้อมกัน ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตื่นตกใจที่จู่ๆ มีทหารติดอาวุธของแองกริฟฟ์ปรากฏตัวขึ้นมา ชุมชนถูกควบคุมเบ็ดเสร็จในไม่กี่อึดใจหน่วยไนท์แมร์นำทหารเข้าตรวจค้นพื้นที่ต่างๆ “ค้นให้ทุกซอกทุกมุม ใครต้องสงสัยให้นำมารวมกันไว้ที่ลานกว้าง!” โนอาห์ออกคำสั่ง บ้านแต่ละหลังถูกเปิดเข้าไปอย่างไม่เกรงใจคนที่ทำตัวน่าสงสัยถูกลากตัวออกมาโดยไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้นแต่ก็แทบไม่มีใครขัดขืน เพราะทุกคนในชุมชนต่างรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าต่อต้านจักรวรรดิ โนอาห์มองภาพผู้คนที่กำลังหวาดกลัวด้วยสีหน้าเรียบเฉียบ สำหรับเขาความรู้สึกของคนในชุมชนเทียบไม่ได้เลยกับความมั่นคงของแองกริฟฟ์ เขาจะต้องตามหาฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏให้เจอ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม “หัวหน้าครับ เราพบพื้นที่ต้องสงสัยครับ เป็นอุโมงค์ที่ไม่ปรากฏในแผนที่ครับ”ลูกน้องจากหน่วยไนท์แมร์รายงานผ่านวิทยุสื่อสาร “ส่งพิกัดมา ผมจะนำกองกำลังอื่นๆ ไปสมทบ”เบื้องหน้าของโนอาห์ที่เขตชานเมืองคืออุโมงค์เชื่อมไปยังทางใต้ดินที่มีขนาดใหญ่พอให้รถไฟสองขบวนวิ่งเข้าออกได้อุโมงค์ดูสะดุดตามาก แต่น่าแปลกที่ไม่มีชาวบ้านคนไหนพูดถึงมันเลย “เมื่อครู่มันถูกซ่อนเอาไว้ด้วยเครื่องฉายภาพสามมิติครับ ถ้าไม่ตรวจสอบใกล้ๆก็จะไม่รู้เลยว่ามันอยู่ตรงนี้เพราะอยู่ในสภาพล่องหนตลอด”ลูกน้องของเขาไขข้อสงสัยให้ “เหรอ? แสดงว่าพวกคนในชุมชนจะไม่รู้ก็ไม่แปลกสินะ” โนอาห์สรุป “ทีม 1 ถึง3 เข้าไปสำรวจข้างใน ทีมอื่นๆ รอรับคำสั่ง” พวกเขาใช้เครื่องตรวจสอบสิ่งมีชีวิตจากภายนอกแล้วแต่อุโมงค์ลึกมากเกินไปจนไม่สามารถตรวจสอบได้กองกำลังทหารจึงเข้าไปสำรวจด้วยตัวเอง อุโมงค์นี้ไม่มีอยู่ในแผนที่ซ้ำยังจงใจซ่อนเอาไว้ด้วยภาพสามมิติหลายอย่างทำให้เชื่อว่าเป็นฐานของพวกกบฏอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ปัญหาคือยังมีใครอาศัยอยู่รึเปล่า จักรวรรดิทำการตรวจค้นโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าดังนั้นพวกกบฏไม่น่าจะเคลื่อนย้ายไปไหนได้และทหารของจักรวรรดิก็ปิดล้อมพื้นที่สำคัญๆ ในชุมชนไว้หมดแล้วพวกกบฏไม่มีทางหนีนอกจากซ่อนต้องอยู่ข้างในอุโมงค์นี้แน่นอน...ไม่ต่างจากหนูติดกับ หัวใจของทุกคนเต็มไปด้วยความอิ่มเอมของชัยชนะ โนอาห์รอฟังผลจากสำรวจด้วยใจที่ลิงโลดไม่ต่างจากคนอื่นๆถ้านี้เป็นฐานที่มั่นของพวกกบฏ พวกเขาอาจพบตัวระดับหัวหน้าก็ได้ ถ้าเสียหัวหน้าไปกลุ่มกบฏก็จะยิ่งอ่อนแอลงไปอีกแต่แล้วจู่ๆ ความยินดีของโนอาห์ก็หายไปและแทนที่ด้วยความหวาดกลัวอย่างไม่ทราบสาเหตุเขาปวดศีรษะอย่างรุนแรงจนทรุดลงไปและต้องร้องตะโกนออกมา “ทุกคนหาที่กำบังเร็ว! มันเป็นกับดัก!” โนอาห์โพล้งขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว ทีมที่เข้าไปสำรวจภายในอุโมงค์พบสิ่งหนึ่งอยู่ด้านใน...มันคือระเบิดที่ถูกติดตั้งไว้ ตูม! ระเบิดในอุโมงค์ทำงาน เปลวไฟปะทุขึ้นข้างในและพุ่งออกมาด้านนอกไม่ใช่แค่ในอุโมงค์ ระเบิดจำนวนมากที่ถูกซ่อนไว้ตามจุดต่างๆที่ทหารของแองกริฟฟ์ประจำอยู่ ทำงานขึ้นมาพร้อมกันทหารบางส่วนที่เคลื่อนไหวตามคำเตือนของโนอาห์ไม่ทันถูกระเบิดไม่เหลือแม้แต่ซาก แม้ส่วนใหญ่รอดชีวิต แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะจับต้นสายปลายเหตุได้ทหารของจักรวรรดิก็ถูกโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวด้วยกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่มีอาวุธครบมือ... จากสัญลักษณ์ของกลุ่มทำให้พวกเขารู้ว่าอีกฝ่ายคือ กลุ่มเอลริช กลุ่มต่อต้านที่สร้างปัญหาให้รัฐบาลมากที่สุดการต่อสู้กลางเมืองเปิดฉากขึ้น “เราถูกหลอกแล้ว! ทุกคนเข้าประจำการรบ!” โนอาห์คำรามอย่างโกรธแค้นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏในไคลน์แสตดท์นั้นเป็นข้อมูลลวงเพื่อล่อให้กองกำลังของรัฐบาลเข้ามาทำการกวาดล้างโดยที่พวกกลุ่มเอลริซแอบซุ่มอยู่นอกพื้นที่แล้วรอจังหวะเข้ามาตลบหลังเป้าหมายของพวกมันคือ การทำลายกำลังรบของแองกริฟฟ์ที่ตั้งใจส่งมากวาดล้าง โชคดีที่โนอาห์ไหวตัวทันในวินาทีสุดท้ายทำให้กองกำลังของจักรวรรดิรอดจากการเสียหายยับเยินมาได้แต่การถูกลอบโจมตีก็ทำให้พวกเขาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ “หน่วยไนท์แมร์ กำจัดพวกกบฏให้หมด!”โนอาห์ชักดาบพลาสม่าสีส้มออกมาด้วยมือซ้ายและกำปืนประจุพลังงานด้วยมือขวาทั้งสองเป็นอาวุธที่เกิดจากวิทยาการอันภาคภูมิใจของจักรวรรดิและยังเป็นอาวุธคู่ใจของโนอาห์ด้วยหัวหน้าของหน่วยไนต์แมร์ลุยเดี่ยวเข้าไปกลางดงศัตรูอย่างไม่เกรงกลัว ดาบพลาสม่านั้นไร้น้ำหนักแต่กลับมีความคมกริบสูงด้วยประจุไอออนที่ไหลเวียนอยู่ตลอดเวลาจนทำให้มีสภาพเหมือนเลื่อยไฟฟ้าที่ตัดได้ทุกอย่างในขณะเดียวกันปืนประจุพลังงานก็ยิงลำแสงที่มีความเข้มสูงจนสามารถทะลุได้ทุกสิ่งโนอาห์ฆ่าฟันทหารของฝั่งกบฏไปได้เป็นจำนวนมากด้วยอาวุธทั้งสองอย่างนี้การโต้กลับของโนอาห์และหน่วยไนท์แมร์ทำให้ขวัญกำลังใจของทางจักรวรรดิกลับมาอีกครั้ง ฝั่งกลุ่มกบฏเริ่มกลายเป็นฝ่ายเสียขวัญเมื่อเจอกับความสามารถโนอาห์ชายหนุ่มเคลื่อนไหวไปมาได้อย่างรวดเร็วราวกับเงาการตวัดดาบแต่ละครั้งรวดเร็วและเงียบเชียบจนไม่ได้ยินเสียงการยิงปืนก็แม่นยำไร้ที่ติจนน่ากลัวโนอาห์ยังคงบุกเข้าไปกลางวงล้อมของข้าศึกและทิ้งความตายไว้ทุกที่ๆ ผ่านตอนนี้การรบของทางฝั่งจักรวรรดิเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางแล้ว โนอาห์เชื่อว่าพวกตนสามารถพลิกกลับมาชนะได้ เปรี้ยง! ร่างของโนอาห์ถูกผลักกระเด็นเมื่อเข้าปะทะร่างหนึ่งดาบพลาสม่าของเขาถูกปัดออกมาด้วยฝีมือของผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มกบฏเธอมีผมยาวสีเขียว ใส่ชุดเสื้อกล้ามพอดีตัวจนเห็นสัดส่วน แต่ที่เด็ดสะดุดตาที่สุดคือแขนข้างขวาที่เป็นจักรกลดูทรงพลัง... แขนนั้นคือสิ่งที่รับดาบพลาสม่าของโนอาห์ไว้ได้ “ดูมีฝีมือดีนี่ แกเป็นหัวหน้าของกองกำลังนี้สินะ” หญิงสาวถาม “แขนกล...แกคือ วาเนสซ่า หนึ่งในหัวหน้าของกลุ่มเอลริชสินะ” โนอาห์ตัวสั่นด้วยความยินดี “ถ้ากำจัดแกได้ กลุ่มเอลริชคงจบสิ้นแน่!” “ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดูสิวะ!” วาเนสซ่าคำรามแขนกลพ่นไอน้ำออกมาเป็นบอกถึงสภาพพร้อมใช้งานโนอาห์พุ่งเข้าใส่วาเนสซ่าอีกครั้งพร้อมดาบพลาสม่าวาเนสซ่ายกแขนกลขึ้นป้องกันดาบพลาสม่าของโนอาห์ไม่สามารถฝ่าแขนกลที่ทำจากวัสดุพิเศษนี้ได้ แต่ส่วนอื่นๆของอีกฝ่ายก็ยังเป็นมนุษย์ เขาจึงอาศัยความเร็วของตนหลบไปโจมตียังตำแหน่งอื่นแทนแต่วาเนสซ่าก็ไม่ได้เชื่องช้า อย่างที่เห็นแขนกลของเธอสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและมีความคล่องตัวสูงผิดกับรูปลักษณ์ที่ดูเลอะทะ เมื่อเห็นว่าดาบพลาสม่าไม่เพียงพอจะเอาชนะอีกฝ่ายได้โนอาห์จึงได้ตัดสินใจใช้ปืนประจุพลังงานยิงสนับสนุนด้วยทางฝั่งวาเนสซ่าก็ไม่น้อยหน้า เธอเองก็มีปืนพกไว้ต่อสู้ในระยะไกลเช่นกันทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดมีทั้งการรุกและรับ จู่โจมและหลบหนี สลับกันไปมาทั้งสนามรบหยุดลงชั่วขณะ ทุกคนต่างจับตามองการต่อสู้ของผู้นำแต่ละฝั่งแขนกลมีรอยแตกร้าว แม้จะไม่สามารถฟันให้ขาดในทีเดียวได้ แต่เมื่อต้องการโจมตีหลายๆครั้งทั้งจากดาบพลาสม่าและปืนประจุพลังงานทำให้แขนกลเริ่มมีร่องรอยความเสียหายปรากฏให้เห็น โนอาห์ยิ้มให้กับผลลัพธ์ที่เห็นถ้าสามารถกำจัดแขนกลนี้ไปได้ชัยชนะก็อยู่แค่เอื้อมวาเนสซ่าทำหน้าเครียดเมื่อพบว่าแขนกลของตนใกล้ถึงขีดกำจัดแล้ว เธอตัดสินใจทุ่มกำลังทั้งหมดที่มีเหวี่ยงแขนกลพุ่งใส่โนอาห์เพื่อหวังตัดสินในครั้งเดียว โนอาห์เห็นอย่างนั้นก็ตวัดดาบพลาสม่าของตัวเองกลับไปสุดแรงเช่นกันดาบพลาสม่าปะทะกับแขนกลอย่างรุนแรงโนอาห์ยกปืนในมือขวาขึ้นแล้วยิงซ้ำเข้าไปอีกเพื่อเสริมความแรงและแล้วแขนกลของวาเนสซ่าก็แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โนอาห์ยิ้มอย่างมีชัยต่อหน้าวาเนสซ่าที่เสียแขนอันเป็นความภาคภูมิใจไปแล้วแต่หญิงสาวกลับไม่แสดงความหวั่นไหวและยกปืนพกในมืออีกข้างขึ้นมาเล็งที่โนอาห์ ปัง! ปัง! ปัง! ร่างของโนอาห์กระเด็นไปข้างหล้งสีหน้ายังคงมีร่องรอยของความยินดีหลงเหลืออยู่ ก่อนจะกลายเป็นความตกตะลึงเขาสามารถทำลายแขนกลอันเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของอีกฝ่ายได้แล้วเขาควรจะชนะ แต่แล้วเขากลับนอนแผ่อย่างหมดสภาพอยู่กับพื้นกระสุนสามนัดเจาะเข้าที่ไหล่ ท้องและหน้าอกของเขาเต็มๆ “ฉะ ฉัน...แพ้เหรอ?” โนอาห์พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อเขากระอักเลือดก้อนใหญ่ออกมาเขาพยายามยันตัวลุกขึ้นแต่เรี่ยวแรงหายไปจนหมดเขาได้ยินเสียงรอบตัวตกอยู่ในความวุ่นวายอีกครั้งความพ่ายแพ้ของโนอาห์ทำให้ขวัญกำลังใจของฝั่งจักรวรรดิตกวูบตรงข้ามกับกลุ่มกบฏที่ฮึกเหิมขึ้นมาแทน...ความพ่ายแพ้ของเขากำลังจะทำให้ทั้งกองทัพพ่ายแพ้ไปด้วย “ทำไม...มันเป็นไปได้ยังไง” โนอาห์พึมพำเหมือนยังไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น “เพราะแกดูถูกคนอ่อนแอยังไงล่ะ” วาเนสซ่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าโนอาห์ตอบ “แกกับพวกจักรวรรดิเอาแต่กดขี่ข่มเหงคนอ่อนแอเอาแต่คิดว่าตัวเองมีอำนาจเหนือกว่าโดยไม่คิดว่าสักวันกลุ่มคนที่อ่อนแอนั้นจะลุกขึ้นมาต่อต้านเหมือนแกที่เอาแต่สนใจแขนกลดูถูกร่างกายที่มนุษย์จนไม่คิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องระวังตัว”วาเนสซ่ายกนิ้วโป้งบนมือซ้ายชี้ไปที่หน้าอกของตัวเอง “สิ่งที่ทำให้พวกเราเหนือกว่าไม่ใช่อาวุธหรืออำนาจที่สร้างความหวาดกลัวแต่เป็นหัวใจที่ลุกขึ้นสู้โดยไม่ยอมแพ้หัวใจที่พวกแกไม่เคยเห็นค่าเลย...ฝากไปบอกพวกจักรวรรดิในนรกด้วยล่ะ” “พูดเพ้ออะไรของแก...ไร้สาระ” โนอาห์ล้วงสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป้าเสื้อ “แต่ถ้าอยากบอกทุกคนล่ะก็...แกก็ไปกับฉันสิ” มันคือระเบิดอานุภาคที่มีรัศมีทำลายล้างสูงและกำลังนับถอยหลัง “อะ ไอ้บ้า! ทุกคนหนีเร็ว!” วาเนสซ่ารีบวิ่งออกห่างจากโนอาห์เขาทำภารกิจล้มเหลว เขาไม่สามารถทำลายกลุ่มกบฏได้ซ้ำเขายังพ่ายแพ้อย่างไม่น่าให้อภัยต่อพวกกบฏสิ่งที่เขาจะชดใช้ได้มีเพียงชีวิตเท่านั้นชีวิตที่เขาจะมอบให้จักรวรรดิพร้อมกับวิญญาณของพวกกลุ่มเอลริช “อะ แองกริฟฟ์...จงเจริญ!” โนอาร์ตะโกน3…2…1…ตูมมมมมมมมภารกิจกวาดล้างฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏล้มเหลวทั้งหมดเป็นแค่แผนลวงที่หลอกให้กองกำลังของจักรวรรดิเข้าไปติดกับเป้าหมายของกลุ่มกบฏคือการตัดกำลังรบของแองกริฟฟ์ด้วยการทำลายกำลังทหารที่จะใช้ในการกวาดล้าง ถ้าแผนการนี้สำเร็จจะส่งผลให้รัฐบาลสูญเสียกำลังรบไปเป็นจำนวนมากซึ่งอาจส่งผลต่อการรบกับกลุ่มต่อต้านในครั้งต่อๆ ไปชุมชนไคลน์แสตดท์ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับแผนการโจมตีของกลุ่มเอลริชในครั้งนี้ซึ่งรัฐบาลก็สืบไม่พบความเกี่ยวข้องของทั้งสองจึงได้ทำการถอนกำลังที่ควบคุมชุมชนอยู่ออกมา แล้วแผนการทำลายกำลังรบของรัฐบาลของกลุ่มเอลริชคงสำเร็จไปแล้ว ถ้าชั้นพิเศษ โนอาห์ หัวหน้าหน่วยไนท์แมร์ไม่ไหวตัวทันจักรวรรดิจึงยังรักษากำลังรบส่วนใหญ่ไว้ได้ และด้วยการเสียสละของชั้นพิเศษโนอาห์ในการใช้ระเบิดพลีชีพกลางวงข้าศึกทำให้กับกำลังรบของกลุ่มกบฏได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากเช่นกันหัวหน้าหน่วยไนท์แมร์ โนอาห์ เสียชีวิตในหน้าที่

รอดชีวิต ดาวน์โหลดข้อมูลที่สำคัญความสามารถในการรบ – เพิ่มขึ้น ความสามารถในการต่อสู้ – เพิ่มขึ้น ความสามารถในการเรียนรู้ – เพิ่มขึ้น ความรวดเร็วและแม่นยำ – เพิ่มขึ้น ความรวดเร็วในการตอบสนอง – เพิ่มขึ้น ความเฉียบคมของสัญชาตญาณ – เพิ่มขึ้น ทำการโอนย้ายข้อมูล... ทำการตรวจสอบข้อมูล... ทำการจัดเก็บข้อมูลสำรอง.. ระบบจะพร้อมทำงานในอีก 72 ชั่วโมง จักรวรรดิต้องเสียเวลากี่ปีในการสร้างทหารชั้นยอดขึ้นมาสักคน คำตอบคือหลายปี จะดีกว่ามั้ย? ถ้าเอาทหารที่เสียชีวิตจากการรบกลับมาใช้ใหม่ได้ ดร.แฟรงเก็นนักวิทยาศาสตร์แนวหน้าของแองกริฟฟ์ผู้ศึกษาเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ได้เสนอแนวคิดนี้และบอกว่าตนสามารถทำให้เป็นจริงได้พวกเขาจะทำการฝังชิปที่คอยเก็บข้อมูลสำคัญๆ ตลอดชีวิตเอาไว้ ชิปนี้จะส่งข้อมูลมาสำรองไปไว้ที่สถาบันวิจัยอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องพร้อมๆกับการสร้างร่างสำรองที่จะเติบโตตามร่างต้นแบบด้วยเทคโนโลยีโคลนไปพร้อมๆกันด้วยหากร่างต้นเสียชีวิต ข้อมูลในชิปจะถูกโอนย้ายไปยังร่างสำรองที่เตรียมเอาไว้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการต่อสู้จะทำให้สมองของร่างสำรองเกิดการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง เช่น สัญชาตญาณที่ตอบสนองต่ออันตราย ทักษะการต่อสู้ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกอย่างจะถูกสั่งสมทุกครั้งที่ก้าวผ่านความตาย แต่เทคโนโลยีนี้ยังมีข้อเสียอยู่คือ ต้องใช้กับร่างที่มีการเก็บข้อมูลตั้งแต่ยังเด็กๆเท่านั้น มันไม่จึงไม่สามารถใช้กับคนที่โตเป็นผู้ใหญ่อย่างนิกซ์ได้เพราะข้อมูลจะขาดหายมากเกินไปและทุกครั้งที่ทำการโอนย้ายข้อมูลระหว่างเสียชีวิต ความทรงจำส่วนใหญ่จะถูกรีเซ็ตเพราะความทรมานขณะเสียชีวิตอาจทำให้เสียสติได้และความส่งผลกระทบต่อผู้รับการทดลองด้วย ดังนั้นทุกครั้งที่เสียชีวิต เพื่อไม่ให้สมองของผู้รับการทดลองเกิดความเครียดความทรงจำขณะเสียชีวิตจะถูกลบออกไปและแทนที่ด้วยเหตุการณ์อื่นๆอย่างการรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ ส่วนข่าวการเสียชีวิตจะถูกปกปิดไว้เป็นความลับสุดยอดจักรวรรดิทำการคัดเลือกเด็กกำพร้าที่มีพรสวรรค์จากสถานสงเคราะห์ของกองทัพอนาไฮม์ แล้วนำมาฝั่งชิปเพื่อรวบรวมข้อมูลนี้ลงไป พวกเขาถูกนำเข้ามาทดลองในโครงการสำหรับสร้างทหารที่สามารถคืนชีพได้เรื่อยๆและแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่คืนชีพด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ความตายครั้งก่อนๆ ชื่อของโครงการนั้นคือ ‘ไนท์แมร์’ (ฝันร้าย) และทหารที่มีความสามารถในการพัฒนาจากความตายที่รวดเร็วที่สุดชื่อ โนอาห์

เฮือก! โนอาห์สะดุ้งตื่นขึ้นมา เขาหอบหายใจและเหงื่อแตกพลั่กชายหนุ่มหยิบขวดน้ำแร่ที่อยู่ใกล้ๆ มาดื่มเพื่อให้ใจเย็นลง เมื่อครู่นี้เขาฝันร้ายฝันว่าเขาทำภารกิจล้มเหลวอย่างไม่น่าให้อภัยและส่งผลให้กองทัพต้องพ่ายแพ้ต่อพวกกบฏ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โนอาห์ฝันแบบนี้เขาฝันร้ายแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ยังเด็กๆ ฝันร้ายแต่ละครั้งจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปซึ่งเขาจำไม่ค่อยได้นักแต่สิ่งที่เหมือนกันและโนอาห์จำได้แม่นยำคือ การเสียชีวิตของเขา “แองกริฟฟ์ จงเจริญ” โนอาห์กล่าวอย่าง เหมือนเป็นการปลุกกำลังใจเขาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวต่อความตายเขาและหน่วยไนท์แมร์ยินดีสละชีวิตเพื่อความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิ วันนี้หน่วยเขามีภารกิจต้องบุกทำลายฐานที่มั่นของพวกกบฏไร้ชื่อ ที่เขตปกครองที่ 12 ซึ่งเขาน่าจะจัดการได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร “...ไม่ เราประมาทไม่ได้” โนอาห์พูดถึงอีกฝ่ายจะเป็นแค่กลุ่มต่อต้านเล็กๆ ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรแต่เขาก็ไม่ควรดูถูกอีกฝ่ายผู้ไร้กำลังอาจลุกขึ้นสู้และกลายเป็นผู้ต่อต้านที่แข็งแกร่งได้ ดังนั้นเขาจะทุ่มกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้สิ้นซากโนอาห์ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆตัวเองมีความคิดแบบนี้ขึ้นมา...มันเป็นเหมือนความคิดที่เกิดจากการเรียนรู้บางอย่างมา ขณะเดินทางไปยังห้องปฏิบัติการโนอาห์ได้พบเด็กสาวคนหนึ่งเด็กสาวผมสั้นสีขาวในชุดทหารสีดำ มีไฝใต้ตาอันเป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกับดวงตาสีแดงราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงตลอดเวลา “อรุณสวัสดิ์ครับ พลเอก นาตาลี” โนอาห์แสดงความเคารพผู้บังคับบัญชา เธอ คือ นาตาลีเด็กสาวที่ได้ตำแหน่งพลเอกแห่งกองทัพแองกริฟฟ์ทั้งที่อายุยังน้อยและด้วยความสามารถอันล้นหลามจนเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะทุกคนเชื่อว่าสำหรับเธอตำแหน่งนายพลคงอยู่อีกไม่ไกล “อรุณสวัสดิ์ ชั้นพิเศษ โนอาห์ ดีใจที่ได้พบคุณก่อนออกปฏิบัติภารกิจ” นาตาลีกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง “คุณคงรู้ว่าภารกิจในครั้งนี้สำคัญมากแค่ไหนฉันขออวยพรให้หน่วยไนท์แมร์ปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จลุล่วง” “รับทราบครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างมาก” โนอาห์เดินทางไปยังห้องปฏิบัติการต่อเช่นเดียวกับนาตาลีที่แยกไปทำหน้าที่ของตนโดยไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว “จงแข็งแกร่งให้มากกว่านี้ จงเรียนรู้จากความตายให้มากกว่านี้ แล้วกลายเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนพวกกลุ่มต่อต้านซะ” นาตาลีกล่าวขึ้นหลังแยกจากโนอาห์แล้ว หน่วยไนท์แมร์ ได้รับการอนุมัติก่อตั้งจากนาตาลี โนอาห์พบกับลูกทีมหน่วยไนท์แมร์ที่คืนชีพขึ้นมาแล้วที่ห้องปฏิบัติการ พวกเขาพร้อมที่จะถูกส่งไปเผชิญหน้ากับภารกิจเสี่ยงตาย...อีกครั้ง

Follow Us
No tags yet.
Search By Tags
Archive
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page